POLITICS

‘ก้าวไกล’ ถกงบกองทัพ มองจัดสรรสะเปะสะปะ ซ่อนหนี้ก้อนโต เอาใจกองทัพ

‘ก้าวไกล’ ถกงบกองทัพ มองจัดสรรสะเปะสะปะ ไร้ประสิทธิภาพ ตั้งฉายา ‘สุทิน ดาวน์น้อย’ ซ่อนหนี้ก้อนโต เอาใจกองทัพ จี้เร่งกู้เรือหลวงสุโขทัย

วันนี้ (4 ม.ค. 67) นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณกระทรวงกลาโหม ระบุว่าไม่ว่าจะกี่ปีก็ยังทำงบเหมือนเดิม ไม่มีประสิทธิภาพ ทำคำขอการจัดสรรงบสะเปะสะปะ จัดสรรงบประมาณเพื่อตามล้างแผลเก่า สะท้อนว่าทำผิดไม่เข็ด ตามเช็ดไม่หมด พร้อมเปิดงบประมาณโครงการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพบก 17,623 ล้านบาท ซึ่งในหน้าเอกสารที่มาและความต้องการ เป้าหมายและตัวชี้วัด กองทัพบกส่งเอกสารเปล่า “อยากจะจับปืน แต่จะจับปากกาเพื่อเขียนขอปืนยังทำไม่ได้”

เมื่อดูตัวชี้วัดหรือ KPI ของกองทัพในโครงการต่าง ๆ ก็เป็นการตั้ง KPI ที่ล้ำเป้า ยกตัวอย่างในปี 2565 เครื่องบินรบพม่าบินล้ำน่านฟ้าไทย 15 นาที โดยไม่มีการตอบสนองจากกองทัพอากาศ แต่ KPI ด้านการดำรงสภาพความพร้อมในการป้องกันประเทศของกองทัพล้ำเป้าเป็น 89% ถือเป็นปัญหาการวัด KPI ของกองทัพไทยที่ไม่สะท้อนผลลัพธ์

นายชยพลชี้ว่า กองทัพจัดงบประมาณไม่มีประสิทธิภาพ จากที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าอยากพัฒนากองทัพให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี จึงต้องสนับสนุนสถาบัน ป้องกันประเทศ เพื่อพัฒนาวิจัยและยุทโธปกรณ์ เพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมอื่น ๆ ซึ่งเป็นบทบาทที่กระทรวงกลาโหมสามารถทำได้ ซึ่งขอชื่นชมนายสุทิน ที่ทำให้งบของสถาบันป้องกันประเทศมีมากขึ้น แต่การตั้งเป้าหมายให้มียุทโธปกรณ์เข้าประจำการ และรายได้แต่ละปีมีน้อยมาก ปี 2566 ได้รับงบ 500 ล้านบาท ประมาณการรายได้เพียง 8 ล้านบาท ปี 2567 ได้รับงบประมาณ 850 ล้าน ประมาณการรายได้เพียง 5 ล้านบาท จึงขอตั้งคำถามว่าติดปัญหาตรงไหน ถึงไม่สามารถวิจัยพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้ หรือติดปัญหาตรงที่จะงบสะเปะสะปะ ไม่มีประสิทธิภาพ ซ้ำซ้อน ไม่มีการหารือวางแผน

แม้รัฐบาลนี้จะจัดงบแบบกระจัดกระจาย แต่เรื่องผ่อนไม่เป็นรองใคร ยอดจัดหายุทโธปกรณ์ ปีนี้ลดลง 2,400 ล้านบาท ทำให้พบกับนวัตกรรมใหม่ที่ซ่อนอยู่คือการดาวน์น้อยแต่ผ่อนนาน จึงขอแนะนำให้รู้จักกับ “สุทิน ดาวน์น้อย” พร้อมแสดงสัดส่วนงบประมาณโครงการผูกพันใหม่ประจำปี 2567 ที่จ่ายดาวน์ยุทโธปกรณ์เพียง 8.8% แต่ในปี 2565 หรืองวดแรกที่ต้องจ่ายดาวน์ จ่ายไปเกือบ 20% ซึ่งหากคิดตามโครงการที่มีอยู่จะต้องดาวน์เพิ่มอีก 5,312 ล้านบาท และหากคิดตามยอดจริงที่ต้องดาวน์ตั้งแต่งวดแรกจนถึงปัจจุบัน จะต้องจ่ายดาวน์อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท

ส่วนงบประมาณก่อหนี้ผูกพันข้ามปีมีสัดส่วนมากขึ้นถึง 57,816 ล้านบาท หรือมากกว่าปี 2566 ประมาณ 2.3 เท่า เป็นการซ่อนหนี้ก้อนโต เป็นความพินาศชิ้นใหญ่ที่รอเราอยู่ ขอสอบถามไปยังนายสุทินว่าเหตุใดถึงไม่พยายามรักษาวินัยการเงินการคลัง หากงบประมาณไม่เพียงพอควรให้กองทัพลดจำนวนโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่ใช่ปล่อยให้จำนวนโครงการมีตามที่กองทัพต้องการ และไปลดยอดเงินดาวน์ เพราะจะเป็นภาระให้กับปีต่อไป

“ไหนบอกว่าเป็นวิกฤตกองทัพ แต่กลับปล่อยให้มีโครงการซื้ออาวุธใหม่ 26 โครงการ มูลค่า 57,800 ล้านบาท ปล่อยให้สุทิน ดาวน์น้อย ทวีสินเชื่อซ่อนเคราะห์ใหญ่ไว้ได้อย่างไร หรือนี่คือความพยายามของรัฐบาลที่เอาใจกองทัพ ไม่พัฒนาร่วมแต่หันมาสวมกอดกันแทน”

นายชยพล มองว่าบาปที่ต้องตามเช็ดคือ เรือดำน้ำที่จีนไม่สามารถส่งให้ไทยด้วยเครื่องยนต์ดีเซลได้ วันนี้ เลยวันที่ทางการจีนต้องส่งมอบเรือดำน้ำมา 94 วันแล้ว ซึ่งตามสัญญาต้องส่งมอบภายใน 2,340 วัน นับตั้งแต่วันถัดไปที่เซ็นสัญญา (5 พ.ย. 60) ฉะนั้นวันสุดท้ายที่จีนต้องส่งมอบคือ 2 ต.ค. 66 พร้อมตั้งคำถามว่าข้อผูกพันตามสัญญายังจะมีผลหรือไม่ เรากำลังจะเสียค่าโง่หรือไม่

ทั้งนี้ กมธ.ทหารฯ ชุดปัจจุบันได้ขอสัญญาไปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากทางการจีน และตั้งคำถามถึงจุดยืนของนายสุทิน และพรรคเพื่อไทยยังเป็นอย่างที่เคยอภิปรายในรัฐสภาเมื่อครั้งที่เคยเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ รัฐบาล นายเศรษฐา และนายสุทิน ต้องกล้าหาญ เลิกไร้ภาวะผู้นำ กล้ายกเลิกสัญญาเรือดำน้ำกับประเทศจีนเพื่อหาสัญญาใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมากกว่าเดิม

สุดท้ายงบประมาณปีนี้ ยังไม่มีการจัดสรรเพื่อกู้เรือหลวงสุโขทัย ในบันทึกข้อความของกองทัพเรือที่ชี้แจงใน กมธ.ความมั่นคงฯ ถึงความคืบหน้าในการกู้เรือหลวงสุโขทัย ซึ่งระบุว่าผู้รับเหมาจะต้องส่งมอบเรือหลวงสุโขทัยให้แก่ทางราชการ ณ ท่าเทียบเรือ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในสภาพโครงสร้างตัวเรือภายนอกใกล้เคียงกับผลสำรวจตามเอกสาร Detailed Survey Report ชำระค่าโอนภายนอกและภายในตัวเรือให้เรียบร้อย ปรับแต่งสภาวะเรือให้มีความปลอดภัยลอยลำได้ด้วยตนเอง ถือว่ากำลังฟอกขาวให้กองทัพเรือใช่หรือไม่

งบประมาณที่ให้ซ่อมก็ทำจม งบประมาณที่ให้กู้ก็ทำทำช้าจนเรือเปื่อย นายสุทินรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือจะตอบเพียงว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้” นายชยพล ทิ้งท้ายด้วยการเสนอแนะการจัดงบประมาณกองทัพ 4 ข้อคือ ต้องมีความโปร่งใส มีวินัย กล้าตัดสินใจ และตรวจสอบได้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat