พักการประชุมอภิปรายงบฯ 67 วันแรก เวลา 00.30 น. หลังอภิปรายต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง
พักการประชุมอภิปรายงบฯ 67 วันแรก เวลา 00.30 น. หลังอภิปรายต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง ‘ฝ่ายค้าน’ จวกตั้งงบไม่ตรงปก ‘ฝ่ายรัฐบาล’ ประสานเสียงหนุนร่าง พ.ร.บ. แก้วิกฤต-พัฒนาประเทศทุกด้าน ประธานฯ เตรียมเปิดประชุมต่อ 09:00 น.
สภาผู้แทนราษฎร มีการประชุมครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เปิดการประชุมในเวลา 09:30 น. พร้อมแจ้งกรอบเวลาอภิปราย 3 วัน ระหว่างวันที่ 3 – 5 มกราคม 2567 รวม 43 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล มีเวลาอภิปรายฝ่ายละ 20 ชั่วโมง ที่เหลือ 3 ชั่วโมงสำหรับประธานการประชุม
ต่อมาเวลา 09:44 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นแถลงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ต่อที่ประชุมสภาฯ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยชี้แจงถึงรายได้ของรัฐที่มีมากขึ้น แม้จะมีการตั้งงบประมาณรายจ่ายสูงขึ้น แต่ยังสามารถตั้งงบลงทุนได้มากขึ้นอยู่ พร้อมบริหารรายรับและรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
จากนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะลุกขึ้นอภิปรายในลำดับถัดมา โดยเห็นว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลนั้น เป็นเบี้ยหัวแตก ไม่มีเป้าหมายหรือยุทธศาสตร์ เลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะรูปแบบการเป็น “รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ”
เช่นกันกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกจับตาจากลีลาการอภิปรายแบบฝ่ายค้านในตำนาน ทั้งการจัดทำงบประมาณโดยล่าช้าตามปฏิทินงบประมาณ ซึ่งปรับปรุงจากรัฐบาลเก่า จนเสมือนเป็นงบเป็ดง่อย ทั้งยังอภิปรายถึงงบประมาณโครงการผู้ต้องขังได้รับการดูแล ของกระทรวงยุติธรรม จนตั้งคำถามถึงข้อสังเกตของสังคมต่อการส่งผู้ต้องขังรักษาตัวนอกเรือนจำ หรือ “คุกทิพย์” เกินกว่า 120 วัน ปลุกกระแสการประท้วงในประเด็นที่อาจถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ก่อนที่ สส. จากพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน ตลอดจนคณะรัฐมนตรี ลุกขึ้นอภิปรายในเนื้อหาสาระหลากหลายประเด็นตลอดทั้งวัน โดยมีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 คน สลับขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม
ประเด็นส่วนใหญ่ที่ฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปราย ได้แก่ การตั้งงบประมาณแบบไม่ตรงปก คือไม่สอดคล้องกับเป้าหมายหรือนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือแม้แต่ข้อกล่าวหาว่า การจัดสรรงบประมาณนั้น ไม่แตกต่างจากสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี
ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาล ยืนยันถึงความสำคัญของร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อแก้วิกฤตตามกรอบยุทธศาสตร์และการเงินการคลัง ตลอดจนสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านการเมือง สังคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เศรษฐกิจ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 00:30 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2567 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม แจ้งที่ประชุมว่า สส. ดำเนินการอภิปรายครบตามที่ลงชื่อไว้ในวันนี้แล้ว จึงสั่งพักการประชุม
ดังนั้น เป็นอันว่าที่ประชุมใช้เวลาอภิปรายในวันแรกรวมทั้งสิ้นประมาณ 15 ชั่วโมง ทั้งนี้ ฝ่ายเลขานุการจะสรุปกรอบเวลาอภิปรายที่เหลือทั้งหมด ตลอดจนของฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านต่อไป โดยการประชุมจะเริ่มต้นอีกครั้งในเวลา 09:00 น.
