POLITICS

‘ก้าวไกล’ ชวนจับตามติ ส.ว. ให้จัดประชามติ แก้รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่

‘ก้าวไกล’ ชวนจับตามติ ส.ว. ให้จัดประชามติพร้อมเลือกตั้ง แก้รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ หลัง ส.ส. ลงมติไร้เสียงค้าน

วันนี้ (3 พ.ย. 65) พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคก้าวไกล แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ดำเนินการตามที่สภาฯ มีมติในการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่ นายณัฐพงษ์ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ

นายพิธา กล่าวว่า แม้แต่ละพรรคจะเห็นต่างกันว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญควรจะเป็นอย่างไร แต่หลายพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เห็นตรงกันว่า การจะหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทย ต้องกลับไปสู่ประชาชนผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ

พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า การจัดทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด อย่างน้อย 3 เหตุผลด้วยกัน ได้แก่

  1. ในเชิงปฏิบัติ ช่วยประหยัดงบประมาณ และสะดวกกับประชาชนในการไปใช้สิทธิ
  2. ในเชิงหลักการ ทำให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นได้โดยเร็วที่สุด
  3. ในเชิงสัญลักษณ์ ทำให้วันเลือกตั้งมีความหมายมากขึ้น ไม่ได้เป็นแค่โอกาสในการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหรือเปลี่ยนรัฐบาล แต่ทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

นายพิธา ชี้แจงขั้นตอนต่อไปว่า จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งแม้เราเห็นมาโดยตลอดว่า ส.ว. เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หากย้อนดูไปในอดีตหาก ส.ว. ยึดคำพูดในอดีต เชื่อว่าก็จะเห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 รัฐสภาเคยมีมติรับหลักการให้มี สสร. ในการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ต่อมาในเดือนมีนาคม 2564 สมาชิกวุฒิสภากลับมีมติคว่ำในวาระที่ 3 โดยยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าให้มีการจัดทำประชามติก่อนร่างรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ ส.ว. ลงมติและรักษาคำพูดตามสิ่งที่พูดไว้ในอดีต

“ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าเพื่งหมดหวัง หากยังไม่อยากลุ้นกับ ส.ว. ท่านสามารถลงชื่อได้โดยตรงกับแคมเปญรีเซ็ตประเทศไทยที่ reset.thailand.org ขณะนี้ได้ 55,000 รายชื่อ แม้จะเกิน 50,000 มาแล้ว แต่เราต้องการตุนไว้ให้ถึง 60,000 เพื่อส่งข้อเสนอโดยตรงไปที่ ครม. ทั้งนี้ เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลโหวตเห็นด้วยครั้งนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ ครม. จะไม่ทำประชามติครั้งนี้ เรายังมีความหวังที่เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ด้วยทั้งการเลือกตั้งและการจัดทำประชามติ” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

ด้าน นายพริษฐ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เรามีการดำเนินการล่ารายชื่อมาตั้งแต่ 1-2 เดือนที่ผ่านมา และเมื่อครบ 60,000 รายชื่อแล้วก็จะเร่งดำเนินการยื่นไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงอยากให้ กกต. เร่งออกกฎระเบียบสำหรับการยื่นรายชื่อนี้ ภายหลังจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติไปแล้ว

แต่นายณัฐพงษ์ ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้การเสนอให้จัดทำประชามติผ่านการเข้าชื่อของประชาชน 50,000 รายชื่อ อาจถูกตีตกจากคณะรัฐมนตรีได้ แต่ญัตติของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย หากผ่านมติของรัฐสภาทั้ง ส.ส. และ ส.ว. แล้ว ก็ต้องจัดทำประชามติแน่นอน ตามหลัก Parliamentary Supremacy ดังนั้น จึงฝากพี่น้องประชาชนจับตาการลงมติของสมาชิกวุฒิสภาต่อไปด้วย เพราะหากผ่านเสียง ส.ว. ไปได้ ประชาชนได้ลงประชามติพร้อมการเลือกตั้งแน่นอน

Related Posts

Send this to a friend