ก้าวไกล เตรียมดัน พ.ร.บ.น้ำประปาดื่มได้เข้าสภาหลังเลือกตั้ง
ก้าวหน้า-ก้าวไกล ลุย อาจสามารถ แถลงความสำเร็จติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาดื่มได้อัจฉริยะที่แรกของไทย เตรียมดัน พ.ร.บ.น้ำประปาดื่มได้เข้าสภาหลังเลือกตั้ง
วันนี้ (3 มี.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงผลสำเร็จติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาดื่มได้อัจฉริยะท้องถิ่นก้าวหน้า ณ เทศบาลตำบลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด
นายธนาธร กล่าวว่า อาจสามารถเป็นตัวอย่างอนาคตที่ดีของประเทศ ยกตัวอย่างบิลค่าน้ำดิจิทัล ทำให้ลดเวลาออกบิล 42 ชั่วโมงทำงาน เหลือเพียง 2 ชั่วโมง ลดค่าบิลกระดาษเขียนมือ 1,200 บาทต่อเดือน หรือ 14,400 บาทต่อปี และสามารถชำระผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารโดยไม่เสียค่าธรรทเนียม ปัจจุบันเปิดใช้มาแล้ว 4 รอบบิล มีประชาชนใช้แล้ว 30% ของครัวเรือนทั้งหมด โดยเดือนหน้าอาจสามารถ จะเป็นที่แรกของไทยที่ใช้มิเตอร์น้ำแบบสมาร์ทมิเตอร์ โดยไม่ต้องเดินจดค่าน้ำเหมือนแต่ก่อน นับเป็นต้นแบบของทั่วประเทศ
นายธนาธร แยกส่วนสมาร์ทมิเตอร์ให้ชาวบ้านดู พร้อมระบุว่า หากเราตั้งเป้าว่า 20 ปีทุกบ้านต้องเป็นสมาร์ทมิเตอร์ จะทำให้เรามีเทคโนโลยีของเราเอง เกิดเป็นอุตสาหกรรมของประเทศ เป็นงานของลูกหลานในอนาคต
นายพิธา ระบุว่า ตนเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งปี 2566 วันนี้เป็นการบรรจบกันระหว่างพรรคก้าวไกลกับคณะก้าวหน้า ตนเองเจอกับนายเทพพร จำปานวน นายกเทศมนตรีตำบลอาจสามารถ พบกับปัญน้ำขุ่น ซึ่งเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รัฐส่วนกลางไม่เข้าใจ มีแต่รัฐท้องถิ่นที่คอยแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน
สิ่งที่ขาดไปในการเมืองระดับชาติ คือการควบคุมคุณภาพน้ำประปา เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าจะประสานความสำเร็จของอาจสามารถไปสู่ทั่วประเทศ โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคก้าวไกลจะผลักดัน พ.ร.บ.น้ำประปาดื่มได้ทันทีหลังจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างงาน ซ่อมประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำ
นายพิธา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งก่อนคนร้อยเอ็ด เคยไว้วางใจให้มา 8 หมื่นกว่าคะแนน ชาวร้อยเอ็ดรักประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ เชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้พ่อแม่พี่น้องจะมาเลือกตั้งกันถล่มทลาย เพราะเป็นการลงทุนน้อยที่สุดเพื่อให้การเมืองดี มีอนาคต
นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า อาจสามารถเป็นที่แรกของไทยที่มีระบบการผลิตน้ำประปา และควบคุมคุณภาพน้ำด้วยระบบ IOT โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบัน 1,300 ครัวเรือนในตำบลอาจสามารถ เปลี่ยนไปใช้สมาร์ทมิเตอร์แล้ว โดยที่ผ่านมาได้ปรึกษากับเพื่อนอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และเพื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกลว่าต้องประยุกต์เรื่องนี้เป็นนโยบายระดับชาติ พร้อมยืนยันที่จะเสนอ พ.ร.บ.น้ำประปาดื่มได้ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรทันทีหลังมีการเลือกตั้ง ผลักดันให้น้ำประปาในประเทศไทนดื่มได้ภายใน 8 ปี ส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีความเสมอภาค ดื่มน้ำประปาเท่ากันทั่วประเทศ
