POLITICS

‘ชัยธวัช’ ซัดรัฐบาลจัดงบแบบ “รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ”

เพื่อรักษาอำนาจจารีต ฝืนทวงความเปลี่ยนแปลงของสังคม ขาดเจตจำนงปฏิรูประบบงบประมาณ ไร้วาระตามนโยบาย เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่

วันนี้ (3 ม.ค. 66) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 2567 ภายหลังนายกรัฐมนตรีแถลงหลักการและเหตุผลของ พ.ร.บ.งบประมาณฯ แล้วเสร็จ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้ได้ฟังคำแถลงของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศคราวแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอีกครั้ง เพราะเต็มไปด้วยถ้อยคำสวยหรู นายกฯ คนที่แล้วก็มาอ่านแบบนี้ เอาภารกิจของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง มาเรียบเรียงว่ารัฐบาลจะทำอะไร แล้วผลออกมาสวยหรูหรือไม่ ทุกคนก็ทราบดี

“แต่ยังพบปัญหาเดิมคือ เป็นการแถลงแผนงานงบประมาณที่กว้างๆ ถ้าไปดูเนื้อในแล้ว เลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ สะเปะสะปะ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช อภิปรายต่อไปว่า ในวันที่แถลงนโยบาย พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมือนตามที่หาเสียงไว้ ไม่รอบคอบ ไม่ชัดเจน ซึ่งนายกฯ ตอบว่าให้ไปดูความชัดเจนของแผนงานแต่ละกระทรวง กลับพบปัญหาหนักคือเป็นแผนงานที่ขาดตัวชี้วัดชัดเจน และไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเป้าหมายทางนโยบายจริง ส่วนใหญ่เป็นโครงการเดิมๆ ที่มาแล้วทุกปี เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่ในการบริหารแผ่นดินให้สำเร็จตามนโยบาย รัฐบาลต้องเป็นผู้นำ ข้าราชการต้องเป็นผู้ตาม

นายชัยธวัช กล่าวต่อไปว่า การจัดทำงบประมาณวันนี้ คาดการณ์รายได้เกินจริงไปราว 1 แสนล้านบาท ขณะที่ตั้งรายจ่ายไว้ไม่เพียงพอ ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลชุดที่แล้วก็ทำแบบนี้ และสุดท้ายต้องไปจ่ายชดเชยเงินคงคลังทีหลัง ด้วยสภาพเช่นนี้จึงมองไม่เห็นวาระเป้าหมายของรัฐบาลผ่านการทำงบประมาณแบบนี้

“วันนี้พวกเราไม่แน่ใจแล้วว่า รัฐบาลกำลังจะสร้างความชอบธรรมด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมจริงๆ หรือกำลังจะทำให้สถานการณ์เรื่องระบบนิติรัฐ นิติธรรม ย่ำแย่ลงไปอีก เพราะสังคมกำลังถูกตอกย้ำให้อยู่กับกระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐาน ถูกตอกย้ำว่าพวกเราต้องอยู่ในระบบกฎหมาย หรือเรือนจำที่มีไว้สำหรับประชาชนสามัญ ที่ไม่ได้มีอำนาจบารมีและฐานะเงินทอง”

“ที่เรามองไม่เห็นวาระเป้าหมายของรัฐบาลผ่านการจัดทำงบประมาณฉบับนี้ สะท้อนว่าความจริงแล้วรัฐบาลชุดนี้เป็นเพียงรัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ ที่ไม่ได้มีวาระเป้าหมายทางนโยบายที่จะขับเคลื่อนร่วมกัน เป็นการรวมการเฉพาะกิจ เพื่อแบ่งอำนาจกัน แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้ ขั่วคราว เราจึงเห็นการตั้ง ครม. แบบผิดฝาผิดตัวเต็มไปหมด เพราะไม่ได้แบ่งงานกันตามวาระเป้าหมาย แต่แบ่งกระทรวงตามโควตาทางการเมือง วางเจ้ากระทรวงไม่ถูกกับงานเต็มไปหมด” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช ชี้ว่า วาระเป้าหมายของรัฐบาลชุดนี้เป็นวาระเพื่อแก้ไขวิกฤตทางอำนาจของชนชั้นนำ เพราะสภาวะการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลชุดนี้ แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่า เป็นการรวมตัวกันเพื่อรักษาสภาวะเดิมของสังคมเอาไว้ ฝืนทวนความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย เพื่อปกป้องพลังทางสังคมแบบจารีต และต่อต้านพลังทางสังคมใหม่ๆ ที่ต้องการอนาคตที่ดีกว่านี้ หลังจากรัฐประหาร ระบบรัฐราชการและชนชั้นจารีตได้กลับมาควบคุมสังคมไทยอีกครั้ง จึงไม่ได้เห็นเจตจำนงของรัฐบาลที่จะปฏิรูประบบงบประมาณอีกเลย

“เพราะพลังทางการเมืองที่เคยเป็นพลังใหม่ เคยเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันได้กลับไปร่วมสมาคมเป็นส่วนหนึ่งกับอำนาจเก่าแล้ว ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ก็สะท้อนสภาวะทางการเมืองที่เป็นจริงตรงนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านอยากสื่อสารไปยังรัฐบาลว่าเราไม่สามารถอยู่แบบเดิมได้อีกแล้ว” นายชัยธวัช กล่าว

Related Posts

Send this to a friend