POLITICS

‘โรม’ มอง ‘ก้าวไกล’ ถูกปรักปรำ อยู่เบื้องหลังป่วนขบวนเสด็จฯ

บอกเป็นนายประกันให้ แต่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำ แนะหยุดสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว วอนใช้เวทีสภาฯ หาทางออก

วันนี้ (12 ก.พ. 67) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อขบวนเสด็จของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานน (ตะวัน) ว่า ความคิดว่ากลุ่มต่าง ๆ ที่ระบุว่ามีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่การเกิดขึ้นในลักษณะนี้ทำให้เราแก้ปัญหาสังคม หรือปัญหาในทางการเมืองได้หรือไม่ หลายครั้งที่พรรคก้าวไกลถูกปรักปรำ แต่อะไรคือหลักฐาน

ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลอาจไปเป็นนายประกันให้ ต้องแยกการไปเป็นนายประกันออกจากการขับเคลื่อนการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ตามกฏหมาย เป็นการให้สิทธิต่อสู้ทางคดี ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการไปนายประกันจะเห็นด้วยกับการกระทำของคนเหล่านั้น

ทั้งนี้ตนเองเข้าใจถึงการเชื่อมโยงพรรคก้าวไกลกับคนต่างๆ อาจเป็นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวัง ต้องการดิสเครดิตกลุ่มทะลุวัง และต้องการทำลายพรรคก้าวไกล

“พรรคก้าวไกลไม่ได้อยู่เบื้องหลังใคร และใครก็ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเรา พรรคก้าวไกลคือพรรคก้าวไกลที่ทำหน้าที่ตามสิทธิมนุษย์ชน เชื่อในเสรีภาพการแสดงออก ส่วนมากเมื่อแสดงออกมาแล้วจะมีคนเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยเป็นสิทธิของแต่ละคน พรรคก้าวไกลมีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง เพราะเป็นการสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว ซึ่งเรามีบทเรียนมาแล้ว”

นายรังสิมันต์ ยอมรับว่าการกระทำของนางสาวทานตะวัน สร้างเสียงวิจารณ์ คงจะสรุปยากว่าสังคมเห็นไปในทิศทางใด เพราะมีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ทั้งนี้การอารักขาบุคคลสำคัญก็ต้องมีมาตรการเช่นกัน

โดยกรณีการมุ่งเป้ามาที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ครั้งแรก พรรคก้าวไกลพยายามให้สติกับทุกคน การที่เราไปเป็นนายประกันหรือเคยเป็นนายประกันในอดีตไม่เท่ากับว่าเราอยู่เบื้องหลัง การแสดงออกทางการเมืองก็ถือเป็นจุดยืนของแต่ละคน การจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต้องแยกเป็นกรณี ท้ายที่สุดทุกคนมีสิทธิที่จะต่อสู้ในศาลว่าไปตามกระบวนการกฎหมายที่ควรจะเป็น

“ขออย่าสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว อย่าสร้างปีศาจตนใหม่ขึ้นมาเหตุการณ์เดือนตุลาเคยสร้างบทเรียนให้เราแล้ว อย่าทำซ้ำ ไม่คุ้มกัน เรากลับมาใช้เวทีสภาฯ ในการคลี่คลายหาทางออกจะดีกว่าหรือไม่”

สิ่งที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงร่างญัตติด่วนทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯลฯ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะสภาฯ จะพิจารณาทางออกผ่านการพูดคุย ไม่ใช่การพูดคุยผ่านท้องถนน สร้างพื้นที่อันตรายก็คงไม่คุ้ม

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าหนทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งคือการนิรโทษกรรม ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาขึ้นมาแล้ว ขอให้มาพูดคุยกันตรงนี้ อย่าใช้ความรุนแรง ส่วนกรณีที่ สว.ขอให้พรรคก้าวไกลหยุดเคลื่อนไหวมาตรา 112 และการนิรโทษกรรม มาตรา 112 พรรคก้าวไกล ถือเป็นพรรคการเมืองที่ได้หาเสียงกับประชาชนไว้ เราไม่ได้มีแค่นโยบาย 112 แต่มีแนวนโยบายอีกจำนวนมาก ทั้งหมดถือเป็นแนวคิดของ สว.ถ้าเราต้องจบปัญหาควรจะเปิดประตูให้กว้างที่สุด พร้อมตั้งคำถามว่านิรโทษกรรมแก้ปัญหาทางการเมืองได้นั้น เป็นจริงหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend