‘ชัยธวัช’ ผิดหวังร่าง พรบ.งบประมาณ 67 ชี้รัฐบาลใช้เวลา 3 เดือนปรับแผนแต่ ”ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง“

วันนี้ (3 ม.ค. 66) นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนเริ่มประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เป็นวันแรก ระบุว่า พรรคก้าวไกลได้เตรียมทำการบ้าน ประเด็นหลักคือต้องดูว่า พรบ.งบประมาณที่จัดใหม่ สะท้อนหรือยึดโยงกับนโยบายของรัฐบาล ที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ นอกจากนั้นร่าง พรบ.งบประมาณ จะยังสะท้อนสภาวการณ์ทางการเมืองที่เป็นจริงของการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ด้วย

ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นการจัดงบประมาณไม่ตรงปก นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นปัญหาที่เห็นชัดเจน เห็นมาตั้งแต่การแถลงนโยบายของรัฐบาลจนถึงแผนงานรายกระทรวง และจนมาถึงร่าง พรบ.งบประมาณฉบับนี้ เห็นว่าไม่สะท้อนนโยบายหรือวาระทางนโยบายที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาล เป็นปัญหาที่จะใช้เวลาใน 3 วันนี้ อภิปรายชี้แจง วิพากษ์วิจารณ์ให้เห็นในรายละเอียด และมีข้อเสนอแนะ คิดว่าเวลา 3 วันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานของรัฐบาล และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการติดตามงบประมาณของรัฐบาลชุดใหม่ โดยรัฐบาลกับฝ่ายค้านได้แบ่งเวลากันประมาณฝั่งละ 20 ชั่วโมงใช้เวลา 3 วันเต็ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจัดงบประมาณให้การจัดเก็บรายได้น้อยกว่ารายจ่าย และต้องมีการกู้เงินอีกราว 6 แสนล้านบาท และยังเหลือขาดดุลอีกประมาณ 5 แสนล้านบาทจะกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในเรื่องนี้มีปัญหาหลายส่วน ตั้งแต่การประมาณการรายได้ที่
น่าจะมากเกินจริง ขณะที่การกำหนดว่างบประมาณที่เป็นรายจ่ายก็น่าจะไม่พอกับรายจ่ายที่เป็นจริงด้วย ดังนั้นสิ่งนี้จะเป็นปัญหาและเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำให้รัฐบาลชุดหลังๆ ต้องมีภาระรายจ่ายคืนคลัง ซึ่งจะเป็นประเด็นที่จะได้อภิปรายในสภาด้วย

นายชัยธวัช กล่าวว่า เป้าหมายในวาระแรก ฝ่ายค้านจะเน้นทำให้เห็นภาพรวมเป็นปัญหาใหญ่ๆ ส่วนในวาระที่สองจะพูดถึงรายละเอียดในของแต่ละกระทรวงและหน่วยรับงบประมาณ เพื่อจะตรวจสอบว่าการกำหนดงบประมาณไว้มีประสิทธิภาพตอบโจทย์และคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งข้อจำกัดของสภาผู้แทนราษฎรคือตัดงบได้อย่างเดียว

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะหยิบยกกรณีนายทักษิณ ชิยวัตร มาพูดด้วยนั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่า เรื่องนี้ฝ่ายค้าน ไม่ได้พูด ไม่ใช่ประเด็น แต่ดูรัฐบาลออกจะร้อนตัวไปนิดหนึ่ง ขอให้ไม่ต้องกังวลอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องพูดด้วยคือ พรบ.งบประมาณมันไม่ได้สะท้อนปัญหาในการดำเนินนโยบายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสะท้อนสภาวการณ์ทางการเมืองที่เป็นจริงในการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้

“เราแทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ นี่คือปัญหา ทั้งที่รัฐบาลเริ่มมีมติ ครม.ให้มีการทบทวนงบประมาณใหม่ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเวลากว่า 3 เดือน แต่ใช้เวลากว่า 3 เดือนได้อย่างน่าผิดหวังมาก” นายชัยธวัช กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะระมัดระวังการใช้โอกาสนี้ตบทรัพย์อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเท่านั้นเรื่องนี้ตั้งแต่ที่พวกตนทำงานตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกลในสมัยที่แล้วเราเห็นว่า ส.ส. ไม่จำกัดเฉพาะฝ่ายรัฐบาลเท่านั้นแม้กระทั่งฝ่ายค้านเองกลับใช้โอกาสวาระในการพิจารณาพรบงบประมาณเป็นกระบวนการในการตบทรัพย์หรือไปเรียกรับผลประโยชน์ในการแบ่งปันแบ่งเบียดบังงบประมาณเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ดังนั้นวันนี้ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านจะควบคุมกำกับไม่ให้สอสอของฝ่ายค้านมีปัญหาและอยากเห็นกระบวนการวิจารณ์งบประมาณที่เป็นกระบวนการพิจารณางบประมาณตามเป้าหมายจริงๆ ไม่ใช่เวทีในการตบทรัพย์เรียกรับผลประโยชน์