ผบ.ทร.ยันไม่เลิกค้นหา 5 นาย ยังหวังมีปาฏิหาริย์ ย้ำ ไม่เร่งรัด คกก.สอบสวนทำหน้าที่
ผบ.ทร.ยันไม่เลิกค้นหา 5 นาย ยังหวังมีปาฏิหาริย์ ย้ำ ไม่เร่งรัดคณะกรรมการสอบสวนทำหน้าที่ ยึดพยานหลักฐาน ยอมรับยังไม่สามารถกำหนดเวลากู้เรือได้ ยืนยันต้องมีผู้รับผิดชอบ ตามกฎหมายความผิดทางละเมิด โต้ ‘ยุทธพงศ์’ เครื่องยนต์ ร.ล.สุโขทัย ไม่ใช่รุ่นเดียว เครื่องยนต์จีนเรือดำน้ำ
วันนี้ (3 ม.ค. 66) ที่ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา เขตบางกอกน้อย กทม. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางจำนวน 5 นาย ว่า ขณะนี้เรายังไม่เลิกหรือลดกำลังพลในการค้นหา แต่ได้ปรับแผนการค้นหาในพื้นที่ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิต เช่น เกาะแก่งต่างๆ ใช้เรือยางขนาดเล็กเข้าไปในพื้นที่ ทั้ง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงขอสนับสนุนองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ในการส่งกำลังไปช่วยดูแลและค้นหา
เมื่อถามว่ายังหวังให้มีปาฏิหาริย์หรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า เราก็ยังหวังทางครอบครัวก็ยังหวังอยู่เช่นกัน กองทัพเรือก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการ สอบสวน ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เราตั้งคณะสอบสวนมาสองชุดคณะแรกคือเหตุผลที่ทำให้เรืออับปาง คณะที่สองจะสอบสวนขั้นตอนการปฏิบัติ ตั้งแต่เมื่อเรือจะจม เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการค้นหาเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ผลการสอบสวนยังไม่ออกมา นอกจากจะสอบสวนกำลังคนที่รอดชีวิตมาแล้ว ยังต้องสอบสวนบุคคลภายนอก เช่น เรือสินค้า และเรือน้ำมันที่เข้ามาช่วยเหลือกำลังพล ก็ต้องเข้าไปสอบสวนว่าทราบเรื่องและเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างไร
ดังนั้นในขั้นตอนการสอบสวนจึงต้องใช้เวลา ซึ่งตนไม่ได้เร่งรัด ในการกำหนดเวลาว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ โดยให้คณะกรรมการไปดูแนวทาง และปริมาณงาน ว่าต้องใช้เวลาสอบสวนเท่าไร เมื่อได้ผลการสอบสวนก็จะนำมาชี้แจงให้ทราบต่อไป
ส่วนกรณี ที่เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ไม่มีต้นกลเรือหลวงสุโขทัย ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ก็ต้องไปอยู่ในการสอบสวน
เมื่อถามว่ามีการซ่อมเรือช่วงปี 2561 ถึง 2563 ว่ามีปัญหา ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ก็ต้องไปอยู่ในการสอบสวน ตอนนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้
เมื่อถามว่ากรณีที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตี เชื่อมโยงเรื่องของเรือหลวงสุโขทัยไปกับเครื่องยนต์เรือดำน้ำว่า เป็นเครื่องยนต์จีนรุ่นเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารเรือชี้แจงว่า ไม่ใช่เครื่องเดียวกับจีน เพียงเป็นเครื่องตราอักษรเดียวกัน คือ MTU ซึ่งการสื่อสารอาจจะผิดพลาด เพราะตราอักษรเดียวกันแต่ไม่ใช่เครื่องยนต์เดียวกัน เป็น MTU เหมือนกัน ซึ่งเรือในกองทัพเรือกว่า 80% ก็ใช้เครื่อง MTU ซึ่งมีหลายรุ่นและหลายเวอร์ชั่นเพราะฉะนั้น เขาอาจไปโยงว่าเป็นเครื่องตราอักษรเดียวกัน ไม่ใช่เครื่องชนิดเดียวกันเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ากรอบระยะเวลาและวางแผนการกู้เรือนั้น พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่าขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการในการกู้เรือ โดยมีพลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานคณะกรรมการ ได้มีการประชุม และได้สำรวจ บริเวณใต้น้ำที่เรือจม เพื่อวางแผนในการกู้เรือ ซึ่งจะต้องใช้เวลา เพื่อต้องดูวิธีและเรื่องของเทคนิค รวมถึงบริษัทที่สามารถดำเนินการได้ และงบประมาณที่ต้องใช้ เมื่อถามว่าจะเป็นช่วงเดือนไหน ย้ำว่าขณะนี้คณะกรรมการยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมาแต่บริษัทได้นำเสนอวิธีการกู้เรือ ต่างๆ ที่มีอยู่หลากหลายวิธีตามแต่ละบริษัท ที่มีความชำนาญ แล้วเขาก็จะเสนอในหนทางที่ดีที่สุด เพื่อไปพิจารณากับงบประมาณในการใช้จ่าย
เมื่อถามถึงกรณี การสอบสวนการ ว่าจะต้องมีการรับผิดถึงขั้นใดตามระเบียบราชการ ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวว่า ระเบียบทางราชการที่เกี่ยวข้องคือข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ด้วยความรับผิดทางละเมิด ในกรณีที่ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย หรือสรรพาวุธได้รับความเสียหาย ซึ่งเราได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อพิจารณาความผิดทางละเมิด เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น โดยเสนอไปที่กองบัญชาการกองทัพไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการคลัง ซึ่งเรือหลวงสุโขทัย ก็ยังมีอาวุธบางส่วนที่จมไปพร้อมกับเรือเช่น ลูกปืน และ วัตถุระเบิด ทั้งหมดนี้จะต้องมีการสอบสวนมูลค่าทรัพย์สินและยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำมาสู่การชดใช้ค่าเสียหาย
หากเป็นการกระทำ ที่ทำให้สูญเสียทรัพย์สินของทางราชการ ในส่วนของกองทัพเรือ มีคณะกรรมการตรวจสอบอุบัติเหตุและความเสียหาย โดยมีเจ้ากรมจเรทหารเรือเป็นผู้รักษาระเบียบ ก็จะ เข้าไปดูในเรื่องของเหตุผลและแนวทางแก้ปัญหา และแนวทางที่เป็นบทเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้ เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก
ส่วนกรณีที่ภรรยาของพลทหารจิรวัฒน์ ธูปหอม กำลังพลที่เสียชีวิต ทราบว่าตั้งครรภ์ ภายหลังเสียชีวิต และทางญาติ อยากให้เข้ารับสิทธิ์เป็นทหารแทน ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า มีกฎระเบียบกระทรวงชัดเจนที่จะให้สิทธิตามลำดับชั้น ไม่ว่าบุตรหลานสามีภรรยาพ่อแม่ ก็จะมีชั้นของสิทธิอยู่ ซึ่งอยู่ที่ครอบครัว ของผู้เสียชีวิตว่าจะใช้สิทธิส่วนไหน
ทั้งนี้การนำเสนอข้อมูลของกองทัพเรือ ก็ต้องเป็นข้อเท็จจริง ที่ชัดเจนดังนั้นการนำเสนอ เช่นเขาว่าปากต่อปาก ซึ่งทางราชการไม่สามารถนำเสนอได้ ตามอำเภอใจ ซึ่งต้องรอผลสอบสวน จากพยานที่เกิดเหตุ พยานวัตถุ มาประกอบกัน
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับผู้การเรือหลวงสุโขทัยหรือยัง พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย ส่วนได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับผลการสอบสวนแล้วหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือระบุก็ได้รายงาน นายกรัฐมนตรีตามระดับชั้นตลอดเวลา