POLITICS

‘วิทยา’ จี้ ‘เศรษฐา’ แสดงวิสัยทัศน์ชิงนายกฯ ในรัฐสภา​ประกาศให้ชัดไม่แก้ ม.112

‘วิทยา’ จี้ ‘เศรษฐา’ แสดงวิสัยทัศน์ชิงนายกฯ ในรัฐสภา​ประกาศให้ชัดไม่แก้ ม.112 ไม่เช่นนั้นถูกปิดประตู บอก​ ขออนุญาตเข้าสภาฯได้​ เหตุ​ เป็นตำแหน่งสำคัญ มอง​ ‘วันนอร์’ ไม่ควรนัดประชุมสุ่มไปเรื่อย หวั่นประชาชนประสาทเสีย แย้ม รทสช.มีมติเพียง 2 ทาง หากโหวตเลือก 4 ส.ค.นี้ ไม่สวนมติก็งดออกเสียงเท่านั้น

วันนี้ (2 ส.ค. 66) นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เรียกประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัย ประเด็นการเสนอญัตติซ้ำ ตามข้อบังคับที่ 41 สามารถเสนอชื่อซ้ำเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ได้หรือไม่ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการชี้แจงมาจากศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร และถ้ารัฐสภาประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไป และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาอีกทางหนึ่ง ก็จะเกิดบรรยากาศการถกเถียงกันไม่จบ

ฉะนั้นตนคิดว่าการเร่งรัดของประธานรัฐสภา จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์ และวันนี้พรรคเพื่อไทยก็เริ่มดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเอง และเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ตนเองก็มองว่าต้องมองดูท่าทีของ สว.ว่าจะคิดอย่างไร กับการที่นายเศรษฐาเคยยืนหยัดว่าจะจับมือกับก้าวไกลมาตลอด รวมไปถึงการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่านายเศรษฐา จะมีคำตอบอย่างไรต่อที่ประชุมรัฐสภา และพวกตนเองที่ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เอาการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยยืนยันว่าจะขอรอดูท่าทีเพื่อตัดสินใจโหวต เพราะถ้ามาแล้วไม่มีคำตอบที่ยืนยันได้ เราก็ไม่สามารถโหวตสนับสนุนให้ได้

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แนะนำให้ลูกพรรคดูตามสถานการณ์ ซึ่งตนเองในฐานะที่เป็นประธานวิปของพรรค จะหารือในสถานการณ์นั้นๆ ว่าจะลงมติสวน หรืองดออกเสียง ซึ่งมีเพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการโทรศัพท์ ประสานงานมาแล้วหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่าเป็นการโทรศัพท์ประสานกัน ไม่ใช่การตั้งรัฐบาล เพราะต้องอยู่บนพื้นฐานที่ทำนโยบายมาแล้ว แต่หากเพียงแต่โทรศัพท์หากัน เรามองว่าประธานรัฐสภาควรให้เวลาเขา เพราะทุกอย่างมันต้องชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร เรามองว่าการที่ประธานรัฐสภารีบประชุม ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศนั้นควรตั้งหลักให้ดี เพราะประธานรัฐสภาควรมีข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน ไม่ใช่นัดประชุมสุ่มไปเรื่อยๆ ซึ่งมันจะไม่มีจุดจบ และประชาชนเองก็จะรำคาญ พร้อมแนะนำว่าควรให้เขามีเวลาเตรียมการจะ 5 วัน 10 วันหรือ 20 วัน พร้อมเมื่อไหร่ค่อยรีบดำเนินการ

เมื่อถามย้ำว่านายเศรษฐา​ ควรออกมาพูดให้ชัดเจน ต่อประเด็นการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่าใช่ ท่านต้องตอบในสภาฯ เพราะ สว.และพวกตนเองก็รอฟัง เพราะหากเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็ต้องพร้อมอธิบาย เช่นเดียวกับที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเคยทำ ดังนั้นนายเศรษฐาจะต้องขออนุญาตเข้าไปในรัฐสภา เพื่อชี้แจงประเด็นข้อสงสัยและตอบข้อซักถามต่อสมาชิกรัฐสภา

เมื่อถามย้ำว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่านายเศรษฐาไม่ต้องเข้ารัฐสภาเพื่อไปชี้แจงวิสัยทัศน์เนื่องจากไม่ได้เป็น สส. นายวิทยากล่าวว่า สามารถขออนุญาตเข้าไปได้ เพราะเขาเป็นคนสำคัญ ที่จะชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่แสดงวิสัยทัศน์เลยอย่างนี้ก็ปิดประตู สว.เขาก็ไม่ไว้ใจ พร้อมยืนยันว่า การแสดงวิสัยทัศน์เป็นเรื่องที่จำเป็น

ส่วนทิศทางของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ขณะนี้เป็นเช่นไรนั้น นายวิทยา กล่าวว่ายังคงเป็นเช่นเดิมและยืนยันว่า วันประชุมร่วมรัฐสภา ก็จะประชุมอย่างพร้อมเพียง

เมื่อถามถึงทิศทางของพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องดูการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคด้วยหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า วันนี้ต้องดูว่าเขาจะประชุมรัฐสภากันวันศุกร์นี้จริงหรือไม่ก่อน ซึ่งจะส่งใครมาก็ต้องขอรอดูก่อน แต่ถ้าไม่ส่งใครมาก็อาจจะขอเลื่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็ได้ เพราะเท่าที่ดูจากสถานการณ์จริง ยังไม่พร้อมที่จะตั้งรัฐบาลหรอก พร้อมระบุว่า การนัดเล่นๆ ประธานรัฐสภาต้องยุติ ควรพร้อมจริงๆ ค่อยนัดมา เพราะถ้าไปกดดันชาวบ้านเล่นนัดทุกอาทิตย์จะประสาทเสียกันหมด

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะชวนพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาล แต่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ 50/50 ก่อนนั้น นายวิทยากล่าวว่าถ้า 50/50 มีทางเดียวคือต้องเลื่อนการประชุม

เมื่อถามถึงกระแสข่าวสมาชิกพรรคบางคนอาจขอไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ภายในพรรคได้มีการหารือกันแล้วหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ตอนนี้มันมีกูรูการเมืองเยอะ วิเคราะห์กันได้ทุกวัน และที่เห็นมาก็ถูกหักปากกากันหมดทุกคนแล้ว ฉะนั้นเอาเรื่องจริงดีกว่า

เมื่อถามย้ำถึงชื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค นายวิทยา รีบปฏิเสธตอบคำถาม โดยระบุว่าเอาเรื่องจริงดีกว่า พร้อมยืนยันว่าการตัดสินใจภายในพรรคจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีการฟรีโหวต รวมถึงการตัดสินใจการร่วมรัฐบาลด้วย เพราะตอนนี้ดูนายเศรษฐา​เพียงหน้าสื่อฯ ว่าจะแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ รวมไปถึงที่เคยระบุว่าจะจับมือกับพรรคก้าวไกลไปตลอดมีการยกเลิกแล้วหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend