POLITICS

‘ก้าวไกล’ พร้อมเดินหน้าทำงานต่อไม่ว่าสถานะไหน ยังไม่เคาะโหวต ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ หรือไม่

‘ก้าวไกล’ ขอโทษ ปชช.ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พร้อมเดินหน้าทำงานต่อไม่ว่าอยู่สถานะไหน เพราะเรียกร้องอะไรไม่ได้ ยังไม่เคาะโหวต ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ หรือไม่ รับ ‘เพื่อไทย’ ไม่เคยขอให้ถอย ม.112

วันนี้ (2 ส.ค.66) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคกัาวไกล ตั้งโต๊ะแถลงหลังการประชุม สส.ของพรคก้าวไกลที่อาคารไทยซัมมิท โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็น ดังนี้ 1.พรรคก้าวไกลต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่เราไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ ดังที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงไปแล้วเมื่อตอนบ่ายว่าหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะแยกจากพรรคก้าวไกลไปจัดตั้งรัฐบาลด้วยตนเอง ในการพูดคุยระหว่างตัวแทนของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยเมื่อเช้านี้พรรคเพื่อไทยได้แจ้งว่า ขอออกจาก MOU ที่ได้ทำร่วมกันทั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ MOU จัดตั้งรัฐบาลระหว่าง 8 พรรคการเมือง และ MOU ที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลได้ทำร่วมกัน ระหว่างที่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเลือกประธานสภาฯ

2.พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาถอยการเสนอการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีการเจรจากันเรื่องนี้ พรรคเพื่อไทยได้ให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยมาไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมีเรื่องมาตรา 112 หรือไม่ก็ตาม

3.พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค และการพูดคุยเมื่อเช้านี้ แกนนำของพรรคเพื่อไทยบางคนได้แสดงความกังวลใจว่า หากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย อาจทำให้ สว.ไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทย เพราะกังวลว่า หากเลือกนายกฯ เสร็จสิ้น พรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลอีก

สุดท้ายพรรคก้าวไกลขอเรียนพี่น้องประชาชน ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใด พรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่และดีที่สุด ตามที่เราได้รับความไว้วางใจ เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนทุกคน ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่เท่าทันโลก และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเสมอภาคเท่าเทียม เราจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันการกระจายอำนาจ การปฎิรูประบบราชการ การสร้างรัฐที่โปร่งใส เป็นธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และสร้างระบบการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นระบบที่เสียงและอำนาจของพี่น้องประชาชนมีความหมาย

ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยังไม่มีมติว่าจะโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ คาดว่าในวันพรุ่งนี้น่าจะได้ข้อสรุป จากนี้จะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น ต้องขอให้เข้าใจว่า MOU ไม่มีอีกแล้ว โดยเนื้อหาใน MOU ที่เคยตกลงว่าจะร่วมกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ และการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ข้อตกลงเหล่านี้จะหายไป และในฐานะ สส.เราจะสามารถเสนอกฎหมายต่าง ๆ แม้ในสมัยที่ผ่านมา กฎหมายที่เสนอไปจะไม่เคยผ่านสภาฯ แต่หวังว่าสมัยนี้จะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายรัฐบาล

เมื่อถามว่าพร้อมประกาศเป็นแกนนำฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะใด เราจะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุด สำหรับเรื่องการแก้มาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างที่ฝ่ายการเมืองกลุ่มอำนาจเก่า ไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล หลายพรรคที่แถลงร่วมกับพรรคเพื่อไทยพูดชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมรัฐบาลพรรคก้าวไกล เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกัน จึงไม่สามารถร่วมงานกันได้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่เหลือ พรรคใดจะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกลบ้าง เพราะยังไม่ได้พูดคุยกับพันธมิตรพรรคอื่น

“สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ผมเคยพูดไปแล้วว่าปัญหาการเมืองไทยคืออำนาจสูงสุดไม่ใช่ของประชาชน เป็นภารกิจของพวกเราที่จะผลักดันเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มความสามารถให้เสียงของประชาชนสำคัญที่สุด”

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่าหากมีการรวมเสียงพรรคลุงเข้ามา คงไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย เมื่อถามต่อว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า “จากที่พูดคุยกันเมื่อเช้า เราเข้าใจซึ่งกันและกัน”

ส่วนความรู้สึกของ สส.ภายในพรรค โดยเชื่อว่าทุกคนเข้าใจสถานการณ์เชื่อว่าหาก 8 พรรคการเมืองจับมือกันแน่นก็คงไม่เกิดการพลิกขั้วรัฐบาลได้ แต่เมื่อวันนี้พรรคเพื่อไทยออกจาก MOU แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง ทั้งนี้พรรคลุงต้องเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลจะสามารถร่วมงานด้วยได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ฝ่ายที่ไม่ถูกเลือกให้เป็นรัฐบาลก็จะต้องเป็นฝ่ายค้าน คงไม่มีการจับขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน นอกจากนี้กรณีที่พรรคเพื่อไทยผลักดันวาระเร่งด่วนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง อีกทั้งหลายพรรคการเมืองก็ผลักดันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าว นายชัยธวัช ได้เดินมาหน้าโต๊ะแถลง พร้อมชูกำปั้นขวาเป็นสัญลักษณ์ “สู้” ต่อหน้าสิ่อมวลชน

Related Posts

Send this to a friend