‘อัครนันท์’ วอนทุกฝ่าย สนับสนุนแก้ไขร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม
‘อัครนันท์’ วอนทุกฝ่าย สนับสนุนแก้ไขร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม หวังสร้างหลักสิทธิมนุษยชนสากลที่ไทยเป็นรัฐภาคี
วันนี้ (24 ม.ค. 67) เวลา 15.30 น. นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญสมรมเท่าเทียม แถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้า ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ … พ.ศ. … ณ อาคารรัฐสภา
นายอัครนันท์ กล่าวว่าวันนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 4 ได้พิจารณาถึงมาตรา 13 แห่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดอายุของผู้ที่จะสามารถทำการสมรสกันได้ โดยคณะกรรมาธิการได้มีความเห็นพ้องต้องกัน ที่จะผลักดันให้มีกฎหมายฉบับนี้ แม้จะมีบางประเด็นของเนื้อหามาตราที่มีความเห็นแตกต่างกัน แต่ก็สามารถที่จะหาข้อยุติร่วมกันได้ ซึ่งมีความคืบหน้าและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหลายประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1. กำหนดให้ทุกเพศสามารถหมั้นกันได้แล้ว และเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมให้กับสังคมไทย
ประเด็นที่ 2. การปรับอายุของคู่หมั้น จากเดิมอายุ 17 ปีบริบูรณ์ เป็น อายุ 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งการแก้ไขนี้สอดคล้องกับหลักการคุ้มครองเด็กและสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี โดยเพิ่มอายุขั้นต่ำของคู่หมั้นเป็น 18 ปี
ประเด็นที่ 3. การกำหนดการประชุมในกรอบระยะเวลา 60 วัน โดยกรรมาธิการได้กำหนดการประชุมให้เสร็จสิ้นในชั้นกรรมาธิการของเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่าสามารถผลักดันร่างนี้ให้เข้าสู่การพิจารณาและหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป
นายอัครนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเปิดพื้นที่ให้กับทุกเพศในที่การประชุม และเปิดโอกาสให้ทุกเพศเลือกใช้หรือไม่ใช้คำนำหน้า เป็นสิ่งที่ดีมาก และแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น รวมทั้งการยอมรับความหลากหลายทางเพศ อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการปฏิรูปกฎหมายให้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสังคมไทย เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและคุ้มครองสิทธิของทุกคน ทั้งเรื่องเพศสภาพ อายุ และอัตลักษณ์ทางเพศ
คณะกรรมาธิการ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสนับสนุนการแก้ไขดังกล่าวเพื่อสร้างสังคมให้เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ตนเองหวังว่า พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ไม่ใช่เพียงการยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ แต่เรายกระดับมาตราอื่นๆให้ไปสู่หลักสิทธิมนุษยชนสากลที่ไทยเป็นรัฐภาคี
