POLITICS

นายกฯ พอใจผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ค. 65 ขยายตัว 7.46% จากเดือนก่อน

วันนี้ (2 ก.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและการเปิดประเทศ ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการ ภาคเอกชน

โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2565 พบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 7.46% โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่เย็น ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 19.97% ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัว 0.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต 5 เดือนแรก อยู่ที่ระดับ 64.11 จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลง และการผ่อนคลายมาตรการ รวมถึงการเปิดประเทศ ส่งผลให้การบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการอ่อนค่าของเงินบาท ที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกขยายตัว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีอุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตส่งผลบวกในเดือน พ.ค. 65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.06% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นหลัก

นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.29% จากผลิตภัณฑ์ Integrated Circuit และ PWB เป็นหลัก และเภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.73% จากผลิตภัณฑ์ยาเม็ดและยาน้ำ เป็นหลัก

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.24% จากผลิตภัณฑ์ยางแท่ง และเครื่องประดับเพชรพลอยแท้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.93% จากผลิตภัณฑ์จี้ สร้อย และกำไล เป็นต้น

“หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการเปิดประเทศ ส่งผลให้ประชาชนสามารถออกมาใช้ชีวิตประจำวันและบริโภคได้ตามปกติมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า โดยนายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ติดตามและคอยประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ เพื่อร่วมกันจัดหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป” นายธนกร กล่าว

Related Posts

Send this to a friend