’ปกรณ์วุฒิ‘ เผยฝ่ายค้านไม่ยอมถูกลดเวลาซักฟอก โอเคถ้าเลิกดึกแลก ครม.ชี้แจง

’ปกรณ์วุฒิ‘ เผยฝ่ายค้านไม่ยอมถูกลดเวลาซักฟอก ไม่มีปัญหาถ้าเลิกประชุมดึกเพื่อให้ ครม.ได้ชี้แจง แนะนายกฯ รัฐมนตรีคนไหนไม่มีผลงาน ต้องปรับ ครม.
วันนี้ (2 เม.ย. 67) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้ว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเกือบ 100% พรรคร่วมฝ่ายค้านได้พูดคุยแล้ว ทราบจำนวนผู้อภิปรายของแต่ละพรรค เช่น พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายวันแรกมี 4 ท่าน และวันที่สอง 3 ท่าน ขณะที่หัวข้อในการอภิปรายรู้เพียงกว้าง ๆ ไม่ได้ไปละลาบละล้วง โดยเรื่องใดที่มีการอภิปรายในหัวข้อที่คล้ายคลึงกันก็จะจับมัดรวมอภิปรายใกล้ ๆ กัน
เรื่องเวลาในการอภิปรายมีการประชุมวิปสามฝ่ายเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่าจะอภิปรายสองวัน เนื่องจากวันศุกร์นี้ พรรคเพื่อไทยมีประชุมใหญ่ โดยเวลาในการอภิปรายแบ่งเป็นฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรี 6 ชั่วโมง เป็นข้อเสนอที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอมา ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้ต่อรองขอลดเวลา โดยเมื่อวานนี้มีการประชุมวิปสามฝ่ายซึ่งนัดฉุกละหุก และอยู่ระหว่างที่เรากำลังเตรียมพร้อมอภิปรายเวทีใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่มีใครสะดวกไปร่วม โดยจะนัดประชุมวิปสามฝ่ายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เวลา 08.00 น.
ตนเองพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ไม่ได้ขัดข้องที่ ครม.ขอเวลาเพิ่ม แต่ต้องไม่ลดเวลาฝ่ายค้าน เพราะ 3 สัปดาห์ก่อนรัฐบาลยื่นข้อเสนอให้เวลาฝ่ายค้านอภิปราย 22 ชั่วโมง การเจรจาขอลดเวลาเหลือ 18 ชั่วโมง เท่ากับว่าเวลาจะหายไป 10-20 % คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราบริหารจัดการเตรียมคนอภิปรายไว้แล้ว เป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านรับไม่ได้ ถ้าจะขอเวลาเพิ่มและปิดการประชุมให้ดึกขึ้นก็ไม่มีปัญหาอะไร จะไม่เห็นการประท้วงจากฝ่ายค้านเด็ดขาด เพราะเราอยากให้เวลา ครม.ในการชี้แจงเต็มที่เช่นกัน
นายปกรณ์วุฒิ ประเมินว่าการอภิปรายครั้งนี้มีเรื่องติดค้างมาจากสัปดาห์ก่อน ขอไม่กล่าวหาว่าเป็นเรื่องการแก้แค้น แต่สื่อมวลชนก็ได้ถามประธานวิปรัฐบาลว่าเป็นการแก้แค้นเรื่องนับองค์ประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือไม่ ท่านอาจจะบอกว่าไม่ใช่ แต่สังคมมองอีกแบบหนึ่ง ฝ่ายรัฐบาลต้องบริหารจัดการความคาดหวังและความรู้สึกของประชาชนให้ดี เพราะมีเรื่องคุกรุ่นอยู่ พร้อมย้ำว่าการขอเจรจาลดเวลาฝ่ายค้าน 1 ชั่วโมง ก่อนการอภิปราย ยังไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทำให้ประชาชนอดคิดไม่ได้ว่าฝ่ายรัฐบาลเจ้าคิดเจ้าแค้น
ส่วนที่รัฐบาลบอกว่าทำงานมาแค่ 6 เดือน ฝ่ายค้านจะอภิปรายอะไร รวมถึงหัวข้อการอภิปรายที่ดูเหมือนเป็นการตีกินนั้น เราอยากอภิปรายให้ประชาชนทั้งประเทศฟังว่าเกิดอะไรขึ้น บางเรื่องเราอาจจะไม่ได้ฟันธงชี้ถูกชี้ผิด แต่มีข้อมูลหลายอย่างที่ประชาชนไม่เคยทราบ สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่าสิ่งที่เกิดขึ้น รัฐบาลปล่อยปละละเลยหรือไม่ ไม่ใส่ใจกับปัญหา ไม่ทำตามสิ่งที่หาเสียงไว้หรือไม่ คาดหวังว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่ไม่เคยรับรู้ปัญหาหรือไม่เข้าใจความสำคัญจะเข้าไปแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างจริงจัง เพราะหลายประเด็นที่พรรคก้าวไกลจะอภิปรายเป็นเรื่องความเดือดร้อน และส่อทุจริต ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่ต้องจัดการเรื่องดังกล่าว หากบางกระทรวงที่นายกรัฐมนตรีฟังแล้วรู้สึกว่า 7 เดือนที่ผ่านมาไม่มีผลงานก็ควรที่จะปรับ ครม.หรือไม่ รวมถึงบางนโยบายที่หาเสียงไว้ว่า เป็นโครงการเรือธงหัน ตอนนี้หัวเรือถูกทางหรือไม่
”เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีหลายท่านที่ไม่เคยมาต่อกระทู้ในสภาฯ จะมาฟังการอภิปราย เพราะเราอยากจะฟังวิธีแก้ไขปัญหาของท่าน“
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลบอกว่าพรรคก้าวไกลไม่เคยบริหารราชการแผ่นดิน ไม่เข้าใจว่าการเป็นรัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหาง่ายขนาดนั้นว่า รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะทำอะไรบ้างภายใน 3 เดือน 6 เดือนหรือ 1 ปี เป็นการหาเสียงอยู่บนพื้นฐานของอะไร การอภิปรายอาจไม่ดุเดือด แต่เนื้อหาเข้มข้น เราพูดได้ทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณ แต่รวมทั้งการดำเนินงาน วิธีการแก้ปัญหาของรัฐมนตรีด้วย