‘เพื่อไทย’ ยินดีฉีกปกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ให้รัฐบาลลอกไปแก้ปัญหาฝุ่น
‘เพื่อไทย’ ยินดีฉีกปกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ให้รัฐบาลลอกไปแก้ฝุ่น เร่งคืนสิทธิคนไทยได้หายใจบริสุทธิ์ แนะขยายกรอบเจรจาระหว่างประเทศ รับรองปัญหาเบาลง
วันนี้ (2 ก.พ. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือฝุ่น PM 2.5 ในปัจจุบัน
“เราตื่นเช้า สิ่งแรกที่ทำคือหายใจ ก่อนลืมตา แม้แต่ตอนหลับ เราก็ยังหายใจ เพราะฉะนั้น 24 ชั่วโมง เราถูกพรากสุขภาพที่สมบูรณ์และเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานไปนานแค่ไหนแล้ว” นายจักรพล กล่าว
พรรคเพื่อไทยมีความยินดีหากฝ่ายบริหารจะปรับเอารูปแบบของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พ.ศ. … ของพรรคเพื่อไทยไปใช้ พรรคเพื่อไทยยินดีหากจะช่วยให้การแก้ปัญหา PM 2.5 สามารถขับเคลื่อนไปได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเราเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ของพรรคเพื่อไทย จะเป็นความหวังเดียวที่ขับเคลื่อนได้ในฝ่ายนิติบัญญัติ
ส่วนกรณีรัฐบาลแจ้งว่าร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ของพรรคเพื่อไทย ทับซ้อนกับ พ.ร.บ.การเงินฯ นายจักรพล กล่าวว่า ยังมีอีกหลายกรณีที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณจากกระทรวง ทบวง กรม ในการไปแก้ไขปัญหานั้น ๆ โดยไม่มีความจำเป็น ขณะเดียวกัน หากรัฐบาลจะให้ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ บรรจุอยู่ในร่าง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯ ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด เพราะร่มใบใหญ่นั้นไม่แก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างเข้มข้น เราจึงไม่เห็นทางออกว่าอากาศจะกลับมาบริสุทธิ์ได้อย่างไร
“ทุกไตรมาส 4 หรือไตรมาส 1 ของทุกปี จะเกิดปัญหามลภาวะทางอากาศอย่าง PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง เราจึงคิดว่ามันถึงทางตัน หรือหมดสิ้นความอดทนแล้วในการที่รัฐบาลเฉยชาและนิ่งเฉยขณะนี้ แม้ตัวเลขโควิดลดลงและตัวเลขท่องเที่ยวกำลังจะกลับมา แต่สิ่งที่เหยียบเบรกไว้ทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยคือ PM 2.5”
นายจักรพล ขอให้รัฐบาลเปิดใจให้กว้าง อย่างน้อยเพื่อเป็นของขวัญให้ลูกหลาน ผู้สูงอายุ ได้หายใจในอากาศที่บริสุทธิ์ และให้ภาคเศรษฐกิจได้เติบโตไป จากการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวที่จะกลับเบิกบาน ตรงนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาลมหายใจ แต่ปัญหาจะอยู่ไปอีกนาน หากวันนี้ไม่มีระบบการเยียวยาแก้ไขมาเลย เราจึงขอให้รัฐบาลรับเรื่องนี้ไปแก้ปัญหา
นายจักรพล กล่าวยืนยันว่า การเรียกร้องที่ให้หยิบยกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ของพรรคเพื่อไทย ให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ไม่ได้เป็นแค่คำพูดขึ้นมาลอยๆ เพราะพรรคเพื่อไทยได้ศึกษา และถอดบทเรียนมาหมดแล้ว
สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายจักรพล เปิดเผยว่า จะอภิปรายถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความห่วงใยอย่างจริงใจ เพราะต่อสู้เรื่องนี้มา 3 ปีแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าว The Reporters ถามว่าการที่นายกรัฐมนตรีตีตกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ของพรรคเพื่อไทย เป็นเพราะประเด็นการเมืองหรือไม่ นายจักรพล ตอบว่า หากรัฐบาลเห็นอย่างนั้น แลกกับชีวิตของคน แลกกับปอดของคนไทยขนาดนี้ เราก็ยอมเอาเล่มของเรา ไปถอดหน้าปก แล้วเอาสารัตถะที่พิจารณาอย่างเข้มข้นแล้ว ไปเปลี่ยนเป็นปกของท่าน เราก็ยินดีหากทำให้คนไทยมีลมหายใจที่ดีขึ้นได้
ถามต่อไปถึงกระแสพรรคการเมืองเริ่มนำปัญหาฝุ่นผลักดันเป็นนโยบาย พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายอย่างไร นายจักรพล ตอบว่า วิธีจัดการที่ต้นเหตุคือการพัฒนากรอบการเจรจากลุ่มอาเซียน เน้นย้ำที่ประเทศเมียนมา โดยการบรรจุประเด็นฝุ่นเข้าไปในการเจรจาระหว่างประเทศด้วย
“หากหัวไม่เปิด ท้ายก็ไม่สามารถเดินได้ หากรัฐบาลยอมขยายการเจรจา รับรองว่าปัญหาเหล่านี้จะทุเลาเบาบางลงได้” รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
