กต. – ทบ. นำทูตทหารดูความเสียหายปั๊มน้ำมันที่ถูกโจมตีโดยกัมพูชา
กระทรวงการต่างประเทศ – กองทัพบก นำทูตทหารดูความเสียหายปั๊มน้ำมันที่ถูกโจมตีโดยกัมพูชา พร้อมฟังเสียงญาติผู้เสียชีวิต
วันนี้ (1 ส.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพบก ได้พาเอกอัครราชทูต อุปทูต และทูตทหารกว่า 23 ประเทศ ลงพื้นที่สถานบริการน้ำมัน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อดูความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมฟังเสียงของญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
คณะทูต ได้รับฟังบรรยายสถานการณ์ในพื้นที่ จากทางผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รายงานเหตุการณ์โจมตีของกัมพูชาโดยใช้อาวุธเข้าโจมตีถึงพื้นที่ชุมชน ซึ่งจุดนี้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และมีผู้เสียชีวิตนับ 10 ราย
นายคมสันต์ ประชัน ที่สูญเสียภรรยาและลูก รวม 3 คน ได้เปิดเผยว่า ตนเองมองว่าการรบกัน เป็นเรื่องของทหารกับทหาร ซึ่งต้องอยู่ตามแนวชายแดน แต่ในครั้งนี้เป็นการทำลายครอบครัวผู้สูญเสียที่มีการยิงเข้ามามากกว่า 30 กิโลเมตร ซึ่งการสูญเสียในครั้งนี้มันมากเกินไปสำหรับตนเอง
นายคมสันต์ เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ตนเองรับลูกกลับมาจากโรงเรียนและมาเติมน้ำมันเพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่สีแดง โดยแม่กับลูก ได้เข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ความคิดในหัวไม่คิดว่าเขาจะยิงมาถึงนี่ เหมือนอยากยิงตรงไหน ก็ยิงลง เพราะลูกปืนตกแต่บริเวณนี้
ด้านครอบครัวของนางอรุณรัตน์ วันศรี ระบุว่า ในเช้าวันพฤหัสที่ 24 ก.ค. เป็นวันเกิดลูกสาว คุณแม่ก็มาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้ลูก แล้วต่างคนต่างไปทำงาน แม่ก็เข้าสวนตามปกติ พอได้ยินเขาว่าเซเว่นมีระเบิดลง ก็รีบขับรถจากที่ทำงาน เพื่อที่จะมารับแม่ โดยเมื่อเข้ามาถึงใจกลางเมือง กลับได้รับโทรศัพท์ว่าแม่โดนระเบิด ซึ่งเป็นระเบิดลูกแรกที่ลงห่างจากแม่แค่ก้าวเดียว ตอนที่ไปเราไม่สามารถจำแม่ได้ เพราะไม่มีเค้าโครงเดิมของแม่เลย โดยระเบิดได้ลงตรงหลังแม่ ในขณะที่ในมือยังคงถือของที่ใช้กรีดยาง
“อยากเรียกร้องความยุติธรรมว่าแม่จากไปด้วยดี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสู้รบการของทหาร แต่เพียงแค่เพราะกัมพูชา ต้องการทำร้ายพลเรือน”
จากนั้น คณะทูตทหาร ได้ดูความเสียหายในพื้นที่และได้พูดคุยกับทางครอบครัวผู้สูญเสีย และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงชาวบ้านในบริเวณนั้น ซึ่งทูตทหารได้ให้ความสนใจในการพูดคุย แบะสอบถามข้อเท็จจริง อีกทั้ง ยังบันทึกภาพความเสียหาย ภาพแผนที่ และแนวชายแดนอีกด้วย
