‘อนุทิน’ ลงพื้นที่ อ.จักราช อสม.อ้อนขอค่าตอบแทนเพิ่มอีกพัน

‘อนุทิน’ ลงพื้นที่มอบนโยบายอำเภอจักราช กำชับน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี ด้าน อสม.แห่ต้อนรับอบอุ่น อ้อนขอค่าตอบแทนเพิ่มอีกพัน
วันนี้ (1 ก.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นางสาวศุภมาส อิสรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการที่โรงเรียนจักราชวิทยา รวมทั้งมอบนโยบายในพื้นที่อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการ และ อสม.ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อสม.มาตั้งแถวรอต้อนรับนายอนุทินเป็นจำนวนมาก บางส่วนเตรียมผ้าขาวม้ามารอผูกเอว พร้อมกับถือป้ายระบุว่า “อสม.ได้รับค่าป่วยการแล้ว 2,000 /เดือนแล้ว“ พร้อมกับตะโกนว่า “อนุทิน พูดแล้วทำ“ ทั้งยังมี อสม.เข้ามาพูดคุยกับนายอนุทิน ขอขึ้นค่าตอบแทนของ อสม.อีก 1,000 บาทด้วย ก่อนที่นายอนุทิน จะร่วมร้องเพลงมาร์ช อสม.ร่วมกับ อสม.ที่มารอต้อนรับ
จากนั้นนายอนุทิน ได้กล่าวมอบนโยบายว่าเรามาประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีรัฐมนตรีกระจายตัวไปทั้งจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทุกครั้งที่มาที่นี่รู้สึกว่าพวกเรามีความสัมพันธ์และผูกพันกัน ส่วนตัวเป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่พี่น้องชาวจักรราช วันนี้จึงตั้งใจจะมาพบกับพ่อแม่พี่น้องที่นี่ มาเพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งได้รับทราบปัญหามาระดับหนึ่งแล้วว่าแต่ละอำเภอ แต่ละตำบลมีปัญหาอะไรบ้าง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องหนทางสัญจร
มีถนนอยู่ 3-4 สาย 3 สายราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่นจะจัดให้เรียบร้อย ส่วนอีกเส้น 12 ล้านบาท ซึ่งต้องมีการประสานงานข้ามกลุ่มข้ามกระทรวง จึงขอให้นายก อบต.และโยธาธิการจังหวัด ช่วยกันออกแบบ ตรงไหนสามารถลดงบประมาณได้ จะได้ทำออกมารวมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาในการสัญจรพ่อแม่พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ในอำเภอจักราชยังได้ขยายถนนสี่เลน ซึ่งทำตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว และมีผู้รับเหมาเริ่มงานเรียบร้อย
ทั้งหมดเป็นภารกิจของคณะรัฐมนตรี เวลาไปประชุม ครม.นอกสถานที่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรึกษาปัญหาต่าง ๆ สิ่งใดที่แก้ไขได้ก็จะทำให้ ส่วนเรื่องน้ำประปาดื่มได้ ”น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี“ เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของตนเอง ชาวบ้านต้องได้รับความสะดวกและได้รับความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน โดยมอบหมายให้ อบต.จัดหลอดไฟ LED โดยใช้พลังงานพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อไม่ให้สูญเสียงบประมาณ พร้อมฝากนายก อบต.ช่วยกันประสานงานดูแล และสามารถประสานงานผ่าน สส.ในพื้นที่ได้
“ท่านนายก อบต.ขออย่างเดียวไฟต้องสว่าง ไม่ใช่ปิ๊ป ๆ หรือส่องทางตรง อย่าทำโครงการแบบขอไปที เอา LED แสงไม่สว่างเพียงพอ ไม่มีประโยชน์และเป็นการประจานความไม่ใส่ใจของเรา”
นายอนุทิน เปรียบ อสม.เหมือนเพื่อนเก่าแก่ในภาษาจีน “เหล่า เผิง โหย่ว” ที่ตนเองผูกพันกับพี่น้อง อสม.เป็นอย่างมาก ทำประโยชน์ให้กับประชาชนมากมายในช่วงที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีเหตุการณ์โควิด-19 ก็ได้ อสม.มาช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ท่านช่วยเยอะมาก บำบัดทุกข์บำรุงสุขทำหน้าที่เหมือนกับกระทรวงมหาดไทยเช่นกัน
รัฐบาลนี้จึงเห็นความสำคัญ เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม.จาก 1,000 เป็น 2,000 บาท ขอให้รักษาคุณงามความดีเอาไว้ เมื่อสักครู่มี อสม.เดินเข้ามาขอให้ขึ้นเป็น 3,000 บาท ขอให้ใจเย็น ๆ เพราะเรายังมีอีกหลายกลุ่มที่ต้องดูแล ชื่อของท่านคือ “อาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน” ไม่มีใครบังคับมา อาสามาเอง จึงขอให้ท่านมีความภาคภูมิใจในความมีจิตอาสา ค่าตอบแทนนี้จะตอบแทนคุณงามความดีและการเสียสละของทุกคน สิ่งที่เราจะตอบแทนคือ การให้ท่านได้นำค่าตอบแทนเหล่านี้ไปพัฒนาจิตอาสาให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งยังขอให้ อสม.ประสานกับ รพ.สต.ให้ดี ทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด