’พิพัฒน์-ชลน่าน’ คิกออฟตรวจสุขภาพเชิงรุกสถานประกอบการทั่วประเทศ
’พิพัฒน์-ชลน่าน’ คิกออฟตรวจสุขภาพเชิงรุกสถานประกอบการทั่วประเทศ หลังประกันสังคมปรับเพิ่มสิทธิตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ
วันนี้ (1 เม.ย. 67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโครงการการตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการ (KICK OFF) ระหว่างสำนักงานประกันสังคมและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานประกันสังคม และ สปสช. ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ส่งเสริมให้ผู้ประกันตนมาใช้สิทธิตรวจสุขภาพตามรายการสุขภาพพื้นฐานของ สปสช. และสนับสนุนการใช้สิทธิตรวจสุขภาพเพิ่มเติมของสำนักงานประกันสังคมฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสำนักงานประกันสังคม ได้ปรับปรุงประกาศคณะกรรมการการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคม และเพิ่มสิทธิการตรวจสุขภาพของผู้ประกันตน 14 รายการ (มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2567) ให้ได้รับการตรวจสุขภาพที่ถี่ขึ้นตามช่วงอายุที่เหมาะสม เช่น ช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้ตรวจสุขภาพประจำปีฟรี 1 ครั้งทุกปี (ตรวจไขมันในเส้นเลือด น้ำตาลในเลือด การทำงานของไต ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจปัสสาวะ) เพิ่มรายการตรวจ คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง FiT TEST การตรวจวัดความดันของเหลวภายในลูกตา รวมถึงเพิ่มความถี่การถ่ายภาพรังสีทรวงอก
นายพิพัฒน์ กล่าวว่าเป็นความร่วมมือในการดูแลสุขภาพให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกันตน ถือเป็นนโยบายหลักของนายรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ความคุ้มครอง สร้างหลักประกันยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ใช้แรงงาน ครอบคลุมผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมากกว่า 24 ล้านคน
ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการบูรณาการจัดระบบส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ตนเองในฐานะผู้รับผิดชอบให้ความคุ้มครองดูแลแรงงานได้ตระหนักเรื่องสุขภาพผู้ใช้แรงงานเป็นสำคัญ เล็งเห็นว่าภาครัฐควรให้การสนับสนุนตรวจค้นหาโรค เฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยง สร้างความปลอดภัยในสถานประกอบการ ส่งผลให้ผู้ประกันตนลดค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล ลดจำนวนวันลางาน ลดอัตราการเจ็บป่วยเรื้อรัง พิการ หรือเสียชีวิต ภายใต้นโยบายของกระทรวงแรงงานที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการทางการแพทย์ ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคให้กับผู้ประกันตน โดยผู้ประกันตนต้องได้รับการบริการสุขภาพที่เป็นมาตรฐานสากล
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่านโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาโดยนายกรัฐมนตรี มีจุดมุ่งเน้นที่จะยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าโดยเฉพาะแรงงาน ซึ่งเป็นวัยที่สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติ ให้ทุกคนมีสุขภาพดีได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพไม่เสียค่าใช้จ่าย
ข้อดีของโครงการดังกล่าว จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับการส่งเสริมป้องกันโรคให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยผู้ประกันตนจะได้รับการตรวจสุขภาพเช่นเดียวกับผู้ถือบัตรทอง 24 รายการ และจะได้รับเพิ่มอีก 14 รายการ เพิ่มการเข้าถึงการตรวจสุขภาพที่สถานประกอบการ โดยตั้งเป้าว่าจะให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการตรวจสุขภาพเชิงรุกนี้ทั้งหมด 24 ล้านคน
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่าการคิกออฟเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำว่าผู้ประกันตนจะได้รับการดูแลด้านสุขภาพที่ครอบคลุม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ สถานประกอบการที่สนใจสามารถดำเนินการประสานสถานพยาบาลที่มีความพร้อมในการให้บริการตรวจสุขภาพ ที่ขึ้นทะเบียนเรื่องส่งเสริมสุขภาพของสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ ปัจจุบันมีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 213 แห่ง แบ่งเป็น สถานพยาบาลรัฐ 165 แห่ง เอกชน 48 แห่ง
