CRIME

ทีมทนาย ’รองโจ๊ก‘ ยื่นทวงถามความเป็นธรรม ปมถูกออกหมายเรียก 3 ครั้งในระยะ 10 กว่าวัน

ทีมทนาย ’รองโจ๊ก‘ ยื่นทวงถามความเป็นธรรม ปมถูกออกหมายเรียก 3 ครั้งในระยะ 10 กว่าวัน ย้ำ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจดำเนินการ หลัง ป.ป.ช. รับพิจารณา ชี้ ไม่แจ้ง ม. 157 เพื่อเก็บสำนวนไว้กับตัวเองหรือไม่ ขณะที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ เข้าแจ้งความเอาผิด ผบช.น. – พนง.สอบสวน ปมไม่ดำเนินคดีตำรวจระดับสูง ในเส้นเงินเดียวกัน

วันนี้ (1 เม.ย. 67) เวลา 09:00 น. ที่สถานีตำรวจตำภูธรนครบาลเตาปูน นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วย นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำหนังสือเข้ายื่นกับผู้กำกับการ สน.เตาปูน เพื่อทวงถามความเป็นธรรมเกี่ยวกับเส้นเงินที่ น.ส.พิมวิไล เคยมาแจ้งความกับตำรวจไว้ โดยเป็นข้อเท็จจริงที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องการจะยื่นเพิ่มเติม จากที่เคยยื่นไปแล้วก่อนหน้านี้

นายณัฐวิชช์ ย้ำว่าคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ที่มีการกล่าวหาว่าเส้นเงินเชื่อมโยงไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น อำนาจการสอบสวนไม่ได้อยู่ที่ สน.เตาปูน ซึ่งหมายความว่าหากไม่มีอำนาจในการสอบสวน ก็ไม่สามารถออกหมายเรียก และขอออกหมายจับ แต่ที่ผ่านมามีความพยายามปล่อยข่าวออกหมายเรียก และออกหมายจับ ซึ่งมีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชนเป็นระยะ

นายณัฐวิชช์ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าหลักฐานซึ่งเป็นเส้นเงินที่ถูกนำมาใช้แจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็เป็นเส้นเงินเดียวกันกับคดีมินนี่ ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติรับไต่สวนไปแล้วเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา แต่กลับยังเลือกที่จะนำมาแจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ สน.เตาปูน ในคดีนี้อีก รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งคณะพนักงานสอบสวนมาดำเนินคดีที่ สน.เตาปูน โดยนำพยานหลักฐานเดิมของคดีมินนี่มาใช้กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้งๆ ที่ไม่ว่าเส้นเงินทั้งสองคดี ไม่มีส่วนไหนเชื่อมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แม้แต่น้อย โดยข้อหาที่มีการแจ้งนั้น มีเพียงข้อหาฟอกเงิน แต่ไม่มีข้อหา ม.157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะตั้งใจจะดึงคดีไว้สอบสวนเองหรือไม่

นายณัฐวิชช์ กล่าวอีกว่า น.ส.พิมพ์วิไล เคยระบุว่า ตำรวจ PCT 4 ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนที่ สน.เตาปูน ที่มีการขอหมายจับ พล.อ.สุรเชษฐ์ แต่ในตอนนั้นศาลยกคำร้อง ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และเป็นขบวนการสกัด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในการขึ้นตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. หรือไม่

นายณัฐวิชช์ จึงมองว่าเรื่องนี้เป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ได้ เพราะเส้นทางการเงินของน.ส.พิมวิไลในคดีเว็บพนัน BNK Master โยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงรายอื่น ๆ อีก แต่ทำไมดำเนินคดีเฉพาะเส้นเงินที่โยงไปถึง พ.ต.ท.คริษฐ์ แล้วเส้นเงินอื่นๆ มีการออกหมายเรียกดำเนินคดีแล้วหรือไม่

สำหรับ สน.เตาปูน ในคดี BNK Master เป็นการกล่าวหาฟอกเงินกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งในข้อเท็จจริง หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทราบว่า ลูกน้องของท่านมีส่วนรับเงินพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตาม ม.157 ด้วย แต่ทำไมที่ สน.เตาปูน ถึงแจ้งเฉพาะข้อหาฟอกเงิน ไม่แจ้งข้อหา ม.157 ก็เพื่อที่คดีนี้จะอยู่ในมือของตำรวจ ไม่ส่งไปถึง ป.ป.ช. เหมือนกับคดีเว็บพนันมินนี่ที่แจ้งข้อหา ม.157 ด้วย จนทำให้สำนวนคดีเข้าสู่อำนาจของ ป.ป.ช. เช่นเดียวกับกรณีของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ก็ถูกแจ้งเพียงข้อหาฟอกเงิน และไม่ถูกแจ้ง ม.149 และ ม.157

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า คดีเว็บพนัน BNK Master มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.เตาปูน ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2566 ทั้งที่ตามกฎหมายของ ป.ป.ช. แล้ว หากเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งระดับสูงถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คดีอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่ใช่พนักงานสอบสวนตามปกติ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีเพียงแค่อำนาจในการรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้น ก่อนส่งให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ซึ่งตั้งแต่ 3 ธันวาคมมาจนถึงวันนี้ ผ่านมา 120 กว่าวันแล้ว ไม่ปรากฏการส่งเรื่องถึง ป.ป.ช. แต่อย่างใด จึงย้ำว่า ตำรวจไม่มีอำนาจออกหมายเรียกใดๆ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

ส่วนกรณีที่เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เผยแพร่ข้อมูลคดีเว็บพนัน BNK Master เข้าเงื่อนไขของดีเอสไอ 2 ข้อ คือมีเงินหมุนเวียน 300 ล้านบาท และมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจระดับสูง ซึ่ง DSI พิจารณาเป็นข้อเท็จจริงเดียวกับคดีมินนี่ ที่ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้แล้ว จึงมีมติส่งเรื่องให้กับ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.จะ รับไต่สวนตามอำนาจหรือไม่ หาก ป.ป.ช. ไม่รับคดีไว้พิจารณา ดีเอสไอจะดำเนินการเอง นายณัฐวิชช์ ระบุว่า ส่วนตัวจะมองมิติไหน พนักงานสอบสวน ไม่มีอำนาจเลย เพราะอำนาจอยู่ที่ป.ป.ช. และ ดีเอสไอ เพียงเท่านั้น

นายณัฐวิชช์ ย้ำว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่เคยได้รับหมายเรียกสักครั้ง ทำไมถึงออกหมายเรียกตามที่ปรากฏในข่าวถี่เกินไป ทั้งที่ควรเว้นไว้สัก 15 วัน แต่นี่ไม่ถึง 10 วันก็ออกใหม่เรียกครั้งที่ 2 แล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ในการเร่งรัดกันออกหมายเรียกตามที่สื่อมวลชนนำเสนออย่างผิดปกติ

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนจะนำหมายเรียกครั้ง 3 ไปยื่นแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ภายในวันนี้ที่สำนักงาน ก.พ.ร. หน้าทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวิชช์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ หนึ่งในลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกนำดำเนินคดีในความผิดฟอกเงิน ได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิด ผบช.น. และคณะพนักงานสอบสวนในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่ดำเนินคดีกับนายตำรวจระดับสูง ทั้งๆ ที่มีเส้นเงินจากเส้นเดียวกันที่เชื่อมโยงถึง แต่จงใจเลือกเฉพาะบุคคล

Related Posts

Send this to a friend