‘ครูมานิตย์’ แนะ ‘ปดิพัทธ์’ อย่าเล่นเกินบทบาท หากต้องการติง รมต. ไม่มาตอบกระทู้ ควรทำบนบัลลังก์
‘ครูมานิตย์’ แนะ ‘ปดิพัทธ์’ ทำหน้าที่ประธานฯ อย่าเล่นเกินบทบาท หากต้องการติง รมต. ไม่มาตอบกระทู้ ควรทำบนบัลลังก์ ไม่ใช่แถลง มองฝ่ายค้านไม่มีประเด็นอภิปราย ม.151-152 เหตุรัฐบาล ยังไม่ได้ใช้งบฯ ยันไม่มีซูเอี๋ย ก้าวไกล-เพื่อไทย
วันนี้ (1 มี.ค. 67) นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง จะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายวันนี้ ว่าเหตุร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินถูกดอง เพราะนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมลงนามรับรอง ตนเองมองว่าไม่ใช่หน้าที่รองประธานสภาฯ เล่นเกินบทบาทไป ซึ่งนายปดิพัทธ์ ทำตัวเป็นประธานฯ ของฝ่ายค้าน โดยข้างล่างไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องจิตใจเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเลือกข้าง แต่ในขณะขึ้นทำหน้าที่อย่าให้เขาเห็นว่า เราเป็นประธานฯ ที่เลือกข้าง ต้องแสดงความเป็นเป็นกลางไว้ ซึ่งไม่เคยมีอยู่ในประวัติศาสตร์มาก่อนที่รองประธานฯ มีการแถลงข่าวต่อว่ารัฐบาล เรื่องทำกฎหมายค้าง หรือไม่มาตอบกระทู้ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นหน้าที่ของประธานวิปฝ่ายค้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรถึงการนำทำหน้าที่ของการตอบกระทู้ของฝ่ายรัฐบาล นายครูมานิตย์ มองว่ากฎหมายค้างเป็นเรื่องปกติ ตนเองมองว่าพรรคก้าวไกลมีเวลา จึงร่างกฎหมายส่งหลายฉบับ แต่รัฐบาลต้องนำกฎหมายมาให้กฤษฎีกาดู เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายแต่ละฉบับคือรัฐบาล จึงต้องมีความรอบคอบ และมีการประชุมร่วมกัน เนื่องจากหลายฝ่ายก็มีความเห็นที่ต่างกัน พร้อมกับยอมรับว่าพรรคก้าวไกลร่างกฎหมายเข้าสู่สภาฯ มากกว่าปกติ
นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ที่ตนเองไม่ได้ท้วงติงการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ เพราะยังให้โอกาส ไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็ลุกขึ้นประท้วง เพราะเราเป็นรุ่นใหญ่ โดยมารยาทประธานฯ ต้องนิ่ง หากจะท้วงติงอะไรควรท้วงติงบนบัลลังก์แบบที่นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ เคยท้วงติง ในสมัยรัฐบาลแล้ว ซึ่งการทำในลักษณะดังกล่าวนี้ธรรมเนียมปฏิบัติไม่เคยมี
ส่วนเรื่องของการตอบกระทู้ที่ สส. ท้วงติง ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีบางคนต้องไปทบทวน ส่วนเรื่องการตอบกระทู้สด บางครั้งอาจจะเป็นการกลั่นแกล้งก็ได้ เมื่อรู้ว่ารัฐมนตรีไม่อยู่ ก็ยื่นกระทู้ถามทันที พอรัฐมนตรีอยู่ก็ไม่ถาม ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่หมูในสนามสภาฯ เพราะเขามีบทเรียน มีประสบการณ์
ในขณะที่เรื่องของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 153 ของวุฒิสภา ซึ่งตนเองมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะต้องมีการเตรียมความพร้อมอะไร ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านก็ใช้วาทกรรม ที่จะเตรียมยื่นอภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพราะรัฐบาลยังไม่มีเงินมาบริหารประเทศ งบประมาณอยู่ในสภาฯ หากจะอภิปรายว่าทุจริต รัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำโครงการอะไร จึงใช้วาทกรรมจะไม่ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติตามมาตรา 151 บอกว่าคนทำงานถ้าสุจริต เขาก็ไม่กลัวที่จะตอบคำถาม
ส่วนการที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ครูมานิตย์ กล่าวว่า จะไปทำอะไรเขาได้ เนื่องจากวันนี้มีการตั้งคณะกรรมการ และทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ส่งข้อเสนอแนะมา รวมถึงความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อต้องการให้เกิดความเรียบร้อย เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการทำ หากไม่มีฝ่ายก็ก็คงไม่มีปัญหา เพราะมีคนไม่เห็นด้วย จึงมีความจำเป็นที่ต้องทำให้เกิดความรอบคอบ จนกว่าจะตกผลึก ซึ่งวันนี้โครงการฯ ดังกล่าว ยังไม่ได้ให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งหมด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน แล้วนำประเด็นดังกล่าวมาอภิปรายได้ ซึ่งตนเองยังไม่เห็นประเด็นที่จะให้มีการอภิปรายเลย
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการซูเอี๋ย ระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายครูมานิตย์ ยืนยันว่าไม่มีการซูเอี๋ย เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่ของพรรคฝ่ายค้าน หากมีประเด็นและข้อมูลไม่พอ ก็จะเสียคน เพราะวันนี้นายกรัฐมนตรียังแทบไม่ได้ทำ เพราะไม่มีงบประมาณ การสร้างงานก็ไม่เกิด ซึ่งต้องรองบประมาณ 67 เนื่องจากล่าช้ากว่าปกติ
พร้อมกับมองว่าการที่ สว. เตรียมอภิปราย ก็อาจจะเป็นการทิ้งทวนก่อนหมดวาระ ในสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ ซึ่งตนเองเคยสอบถาม สว.วันชัย สอนสิริว่า จะอภิปรายเรื่องอะไร สว.วันชัย ก็บอกว่า ยังไม่มีประเด็นที่จะอภิปราย และได้สอบถาม สว.สมชาย แสวงการ ว่าจะมีการอภิปรายเรื่องการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองมองว่าพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สามารถชี้แจงได้ เนื่องจากทำผิดกฎหมายอะไร เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องตอบคำถาม
