POLITICS

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ยื่นร้อง ผบ.ตร ‘พิธา-ก้าวไกล’ ส่อเข้าข่ายฐานความผิดเป็นกบฏตาม.ป.อาญา ม.113(1) หรือไม่

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ยื่นร้อง ผบ.ตร.ใช้คำวินิจฉัยศาล รธน. ปมล้มล้างการปกครอง ‘พิธา-ก้าวไกล’ ส่อเป็นการกระทำเข้าข่ายฐานความผิดเป็นกบฏตาม.ป.อาญา ม.113(1) หรือไม่

วันนี้ (1 ก.พ. 67) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้พิจารณานำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการหาเสียงของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นการกระทำเข้าข่ายฐานความผิด ข้อหา เป็นกบฏ ตาม.ป.อาญา ม.113(1) หรือไม่

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ในหลักประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ

(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่ง โดยใช้สำหรับกรณีที่ปฏิวัติ หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ มีความผิดตามข้อหากบฏ หรือเรียกว่า 113 วงเล็บหนึ่ง

แต่ว่ากฎหมายฉบับนี้เขียนไว้มาประมาณ 60 ปีที่แล้ว ตามที่เคยเห็นเกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองก็มีทั้งสำเร็จ และไม่สำเร็จ หากสำเร็จก็เป็นรัฏฐาธิปัตย์ จะไม่มีความผิดเพราะว่าออกกฎหมายนิรโทษกรรมไว้ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็จะเป็นข้อหากบฏจะโดยมาตรา 113 วงเล็บหนึ่ง คือล้มล้าง คือการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ไม่สำเร็จ หรือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง หรือในการดำเนินการในชุดความคิด ซึ่งก้าวหน้าไปกว่าเดิม หมายความว่า ไม่มีกองกำลัง แต่จะเข้าไปในความคิด เข้าไปในความรู้สึก แล้วจึงเปลี่ยนแปลงความรู้สึก และความคิดของคนในชาติ พอเปลี่ยนแปลงความคิดของคนในชาติ ก็คือผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ โดยการแก้ไขม.112 ที่ผ่านมา

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเด็ดขาดแล้วว่าการกระทำดังกล่าวของนายพิธา และก็พรรคก้าวไกล เป็นการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำว่าล้มล้างก็คือต้องการล้มล้างระบอบราชาธิปไตยเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น อาจจะเป็นระบอบสาธารณรัฐ หรืออาจจะเป็นระบบอะไรก็ตาม เรียกว่าการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีคำว่าล้มล้างการปกครอง เพราะฉะนั้นก็เทียบได้กับการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 วงเล็บหนึ่ง

พร้อมกับต้องการทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ จำเป็นจะต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยเมื่อวานนี้ มาเป็นองค์ประกอบเพื่อวินิจฉัยพฤติกรรมการล้มล้างการปกครอง การจะผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 วงเล็บหนึ่ง หรือไม่อย่างไร ต้องการให้ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พิจารณาเพราะว่า อัตราโทษค่อนข้างสูงมาก นั่นก็คือข้อหากบฏ อัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

นายมงคลกิตติ์ ฝากไปยังนายพิธา และพรรคก้าวไกลว่า อยากให้ยอมรับคำตัดสินของศาล และอย่าทำอีกเลยด้วยความขอร้องให้จบแค่นี้ ส่วนโทษก็จะแค่ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค โทษจริยธรรมก็ตัดสิทธิตลอดชีวิต และโทษอาญาหลังจากนี้

หากถ้ายังขับเคลื่อนต่อโทษอาญาก็จะหนักขึ้น เพราะฉะนั้นอยากให้พรรคก้าวไกลทั้งพรรคหยุดแล้วอย่าสู้ต่อ เพราะคล้ายกับการวางอาวุธทางความคิด ต้องเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลมีฐานมวลชนอยู่ 14 ล้านคน ถ้าไปต่อคือการที่จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายแล้วจะทำให้คนไทย 2 ฝ่ายต้องออกมาโจมตีกัน เมื่อออกมาโจมตีกันบ้านเมืองทั้ง 2 ฝ่ายจะเสียหายเป็นอันมาก เพราะฉะนั้นถ้าผู้นำทางความคิดของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ทั้งสองที่เป็นแกนนำหลักสำคัญ หรือนายพิธา ถ้าหยุดได้ตรงจุดนี้ มองว่าจะเป็นการดี มันไม่สนุกว่าจะชนะ หรือจะแพ้ เพราะสุดท้ายคนไทยต้องมานั่งโจมตีกัน แล้วก็เกิดความเสียหายอย่างมาก จะมาเป็นผู้นำประเทศท่ามกลางความเสียหายของคนในชาติไหวหรอ การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้นยอมเพื่อให้ประเทศมันเดินหน้าต่อไปถึงจะสวยงาม

นายมงคลกิตติ์ กล่าวเพิ่มว่า ถ้าไม่ตักเตือนกันแรง ๆ ก็คงไม่ฟัง เข้าใจว่าคนหนุ่มไฟแรงต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันหุนหันพลันแล่น แต่บางทีก็ต้องแลกด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างเช่นกัน เพราะฉะนั้น ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ไม่อยากให้เกิดสงครามการเมือง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ต้องเอาเอาประชาชนไว้ก่อน อย่าเอาความรู้สึกความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ เพราะถ้าหากบ้านเมืองเสียหายประชาชนล้มตาย มองว่าไม่คุ้ม ส่วนเรื่องการตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ในอนาคตมีการแก้ไขจากรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เชื่อว่าคนที่ มีสติปัญญาอย่างนายธนาธร นายปิยบุตร นายพิธา คงคิดได้ว่าก็มีโอกาสที่จะกลับมาอีกรอบ

Related Posts

Send this to a friend