‘เพื่อไทย’ เตรียมฟ้อง ‘สนธิญา’ ฐานร้องเท็จ ปมดิจิทัลวอลเล็ต
‘เพื่อไทย’ เตรียมฟ้อง ‘สนธิญา’ ฐานร้องเท็จ ปมดิจิทัลวอลเล็ต ชี้เป็นการกลั่นแกล้ง รังแก ย้ำชัดครั้งนี้ไม่ให้อภัย
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย โดยอ้างเหตุชะลอนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหาย เกิดความเข้าใจผิดของผู้ที่ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้กระทำการที่เป็นการหลอกลวงประชาชน จึงชี้แจงเพิ่มเติมในประเด็น ดังนั้
1.นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า และความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนจากนักร้องทั้งหลาย แต่ในท้ายที่สุด กกต.ปัดตกยกคำร้อง เพราะเป็นนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงเมื่อได้เป็นรัฐบาล
2.พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยกเลิกและชะลอนโยบาย แต่เป็นกระบวนการทางการเมืองในการฟอร์มรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นหลักในการนำนโยบายว่าด้วยการให้สวัสดิการประชาชน เมื่อกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ ได้คณะรัฐมนตรี จึงจะมีชัดเจนในนโยบาย ดังนั้นการร้องของนายสนธิญา ที่กล่าวหาพรรคเพื่อไทยหลอกลวง จึงคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
3.นายสนธิญาเพิ่งมีจดหมายกราบขอโทษส่งถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา และศาลแพ่งสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000,000 บาท กรณีที่นายสนธิญาไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.และ กกต. ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังไม่ให้อภัย แทนที่นายสนธิญาจะสำนึกว่าการร้องเรียนเพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้ามไม่หยุดไม่หย่อน จนตัวเองถูกศาลสั่งลงโทษ เหตุใดจึงยังไม่เข็ดหลาบ
4.หากพรรคการเมืองไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เหตุใดนายสนธิญาไม่ไปร้อง กกต. กรณีพรรคพลังประชารัฐ อยู่มา 4 ปี ไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ตอนเลือกตั้งปี 2562 ทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400-425 บาท จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท นโยบายมารดาประชารัฐยกเว้นภาษี 5 ปี ลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% และอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้ทำตามที่หาเสียงไว้
การกระทำของนายสนธิญา จึงเป็นการจงใจใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในสังคม เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 101 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมือง หรือบุคคลใดว่า กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยรู้อยู่ว่า เป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้่งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น”
“ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ทน และไม่ต้องมาขออภัย เพราะที่ผ่านมารังแก กลั่นแกล้งกันเกินไป นักร้องต้องได้รับผลพวงของการกระทำของตัวเองที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นเสียที” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย