POLITICS

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ติงรัฐบาล กำลังหลงทิศผิดทางในการใช้ อสม. นำร่องปลูกกัญชา ที่ยังเป็นยาเสพติดให้โทษ

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง แสดงความคิดเห็นว่า อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้กำเนิดจากปฏิญญาสากล ว่าประชาชนมีสิทธิและหน้าที่ที่จะให้ความร่วมมือทั้งรายบุคคลและเป็นคณะ เพื่อให้บรรลุสภาวะสุขภาพที่ดี อสม. ที่ปัจจุบัน มีประมาณ 1,054,729 คน ถือเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญด้านสาธารณสุขในชุมชน ที่มีบทบาทเชิงรุกในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพแก่คนในชุมชนมานานกว่าสามทศวรรษ รัฐบาลควรส่งเสริมให้พัฒนาและยกระดับความรู้แก่ อสม. เพื่อให้สามารถทำงานเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่คนในชุมชน ไม่ใช่ให้มานำร่องปลูกกัญชา ดังที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ประกาศไว้ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์”

เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ทำงานทั้งด้านการพัฒนาชนบทและงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหลายหน่วยงาน อาทิ ป.ป.ส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระทรวงยุติธรรม รู้สึกกังวลและห่วงใยต่อผลกระทบจากนโยบายกัญชา ที่จะเป็นการแพร่ระบาดยาเสพติดมากขึ้น หาก อสม. ประมาณ 1,054,729 คน ปลูกกัญชาแล้ว ปริมาณกัญชาในตลาดคงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นำมาซึ่งการเข้าถึงกัญชาที่สะดวกกว่าเดิมมาก ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วย แต่หากผู้ใช้กัญชาจำนวนมากในไทยยังไม่สามารถใช้กัญชาอย่างปลอดภัยได้ อย่างที่เห็นตามข่าวว่ามีผู้ป่วยใช้กัญชาจนเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมากมาย หรือแม้กระทั่งการควบคุมไม่ให้มีการนำไปใช้ในเชิงสันทนาการ ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะยังไม่ชัดเจนในเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดยาเสพติดที่ชัดเจน จะเกิดอันตรายต่อสังคมได้

นโยบายเรื่อง “กัญชา” ได้ถูกสร้างภาพในเรื่องประโยชน์ทางเศรษฐกิจว่าจะสร้างรายได้ให้ประชาชนและผลประโยชน์ทางการแพทย์ ในกรณีทางการแพทย์ ผลการศึกษาวิจัยพบว่ากัญชามีประโยชน์ สามารถรักษา โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน แก้ปวดจากโรคปลอกประสาทเสื่อม และลดผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัดเท่านั้น และยังมีข้อจำกัดอีกหลายประการ ซึ่งต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติม แต่ในกรณีโทษของการใช้กัญชานั้น ผลจากการวิจัยทางการแพทย์ ยังพิจารณาว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติดอยู่ ฤทธิ์ของกัญชายังบั่นทอนความจำระยะสั้น การตัดสินใจ และบิดเบือนการรับรู้ จนนำไปสู่อุบัติเหตุต่างๆที่เกิดการสูญเสียชีวิต หรือการฆ่าตัวตายได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ งานวิจัยในต่างประเทศแสดงให้เห็นว่าการใช้กัญชาในเยาวชน เช่น เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ทำให้มีโอกาสเสพติดและนำไปสู่ยาเสพติดประเภทอื่นได้ง่าย และยังส่งผลต่อการพัฒนาของสมองและร่างกายที่เชื่องช้า เกิดโรคจิตเภท วิตกกังวลทางสังคม และภาวะซึมเศร้า ศูนย์บำบัดผู้ติดยาในต่างประเทศ มีกรณีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาติดกัญชาสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง จากภาวะโรคจิตเภท วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ทั้งๆที่การเข้าถึงกัญชายังไม่เป็นการเสรี ดังนั้น นโยบายกัญชา หากปล่อยให้ปัจเจกบุคคลสามารถปลูกกัญชาได้ โดยยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดยาเสพติดที่ชัดเจน จะเกิดอันตรายต่อสังคมได้ ดังนั้นการรีบเร่งผลักดันนโยบายนี้ในช่วงที่ประเทศยังไม่มีข้อมูลรอบด้าน จึงเป็นแนวคิดและนโยบายที่สุ่มเสี่ยงมาก งบประมาณด้านสาธารณสุข จะคำนึงถึงการใช้งบประมาณเพื่อให้ได้ประโยชน์ตกแก่ประชาชนทั่วไปอย่างสูงสุด

สำหรับประเด็นปัญหายาเสพติดรวมถึงกัญชา พรรคประชาชาติ ได้มีแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งด้านการป้องกัน ปราบปราม บำบัด ฟื้นฟู ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงการใช้ผลวิจัยเกี่ยวกับตัวยาและสารเสพติดมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาที่ให้ความสำคัญกับการจัดงบประมาณกับผู้ปฏิบัติหน้าที่จริง เพิ่มบทบาทและหน้าที่ของครอบครัว ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และสถานศึกษา ในการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา

Related Posts

Send this to a friend