นายกฯ ยืนยัน ไม่มีเหตุแผ่นดินไหวที่จะทำให้ไทยได้รับผลกระทบเพิ่ม ขออย่าตกใจ

นายกฯ ยืนยัน ไม่มีเหตุอาฟเตอร์ช็อค-แผ่นดินไหวที่จะทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบเพิ่ม หลัง หลายอาคารสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ขออย่าตกใจ สั่งเน้นให้แต่ละอาคารเช็คความแข็งแรงก่อนเข้าใช้พื้นที่ คาดผลการตรวจสอบอาคาร สตง. 2-3 วันนี้ มีความคืบหน้า ลั่น หากพบทำผิด ไม่มีละเว้น
วันนี้ (31 มี.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความสับสนของประชาชน ภายหลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกจากแผ่นดินไหวตามมา ซึ่งทำให้พื้นที่หลายจุดมีการอพยพประชาชนออกจากอาคาร โดยระบุว่า กรมอุตินิยมวิทยาได้ยืนยันมาว่าแล้วว่าอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นในเมียนมาขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย พร้อมเน้นย้ำว่าตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้ที่ดูแลตึกทุกตึกจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบว่าอาคารนั้น มีลิฟต์เสีย หรือมีการกระเทาะของกระเบื้อง และกระทบต่อการใช้อาคารหรือไม่ หากมีข้อสงสัยอะไรให้สอบถามไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ฉะนั้นขอย้ำว่าไม่มีอาฟเตอร์ช็อค แผ่นดินไหว หรือภัยธรรมชาติเพิ่มเติม ซึ่งผู้รับผิดชอบอาคารต้องมายืนยันว่าสามารถใช้อาคารได้หรือไม่ ขณะเดียวกันแต่ละตึกก็ต้องช่วยกันรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ดูเหมือนการสื่อสารยังเกิดความสับสน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเราพยายามจะสื่อสารทุกช่องทาง แต่มันเป็นการเกิดขึ้น ณ ที่ตรงนั้น เราก็ทราบตอนที่ประชาชนวิ่งออกมาแล้วจึงขอให้สบายใจว่าไม่มีเหตุการณ์ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนการแจ้งเตือนแผ่นดินไหวไปยังนักท่องเที่ยวนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้มีการแจ้งนักท่องเที่ยว ผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อสักครู่ที่ตนเองได้กล่าวบนเวทีว่า กรณีเกิดตึกถล่ม เกิดจากการผิดพลาดทางเทคนิคกับตึก ๆ เดียว ส่วนมาตรฐานของตึกในกรุงเทพฯ ทั้งหมด สร้างไว้เพื่อรองรับแผ่นดินไหว เพราะฉะนั้นตึกอื่นถึงแม้จะไม่ได้เกิดปัญหารุนแรง แต่อาจจะเกิดปัญหาบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่มีตึกถล่มที่ไหนเพิ่มเติมอีก มีแค่ที่เดียว แต่เป็นภาพลักษณ์ของประเทศไทยจึงต้องสร้างความมั่นใจตรงนี้ ตนเองและรัฐมนตรี พร้อมที่จะตรวจสอบทุกอย่างตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์ ออกแบบ อนุมัติ รวมถึงวัสดุก่อสร้าง โรงงานของวัสดุก่อสร้างตรวจหมด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเข้าไปดูวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง ทั้งหมด และได้มีการเก็บตัวอย่างออกมาแล้ว และดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และคิดว่าน่าจะได้คำตอบบ้างภายใน 2-3 วันนี้
ส่วนเรื่องวัสดุในการก่อสร้างโดยเฉพาะเหล็กก่อสร้าง ได้สอบถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว พบความสับสนว่ามีบริษัทใดบ้างที่ระงับการใช้เหล็กประเภทดังกล่าวชั่วคราว จึงขอให้มีข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้ก่อน เรื่องนี้ให้ความสำคัญอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการแบนบริษัทผลิตเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างตึก สตง.หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่าจะดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่ ไม่มีเว้นแน่นอน ส่วนความกังวลในขณะนี้ อยากให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงว่า ไม่มีภัยธรรมชาติ แต่ละตึกมีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่ วันนี้ตนเองมาอยู่ที่อาคารชั้น 7 หรือ 30 กว่าชั้น เพื่อนของตนเองก็เข้าใช้แล้วตามปกติ
ส่วนการแจ้งเตือนของภาครัฐในเหตุการณ์นี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้แจ้งเตือนผ่านเฟซบุ๊กแล้ว เพราะได้รับข้อความว่าประชาชนได้รับความตื่นตระหนกเมื่อ 30 นาทีที่แล้ว ทุกช่องทางพยายามสื่อสารว่าไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น ขออย่าเพิ่งตกใจกัน ให้เช็กเรื่องตึกให้ดีก่อน