POLITICS

ที่ประชุมรัฐสภาเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ‘ชวน’ ชี้เป้าหมายวันนี้ผิดแผนจากเดิม รอการพิจารณาต่อ

วันนี้ (18 มี.ค. 64) ที่อาคารรัฐสภา หลังที่ประชุมรัฐสภาเลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ให้คณะกรรมาธิการนำไปสอบถามคณะกรรมการกฤษฏีกา แล้วนำมาลงมติในวาระ 2 และ 3 ใหม่ เนื่องจากการลงมติของที่ประชุมในมาตรา 9 โดยเพิ่มเติมรายละเอียดตามที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอ เมื่อ กมธ.ตรวจสอบรายละเอียดพบว่ามีผลกระทบอย่างน้อย 4 มาตรา คือ มาตรา 10, 11, 14 และ 15 ซึ่งระหว่างพักการประชุม ได้มีการสอบถามไปยังกฤษฎีกา ได้ความว่ากฤษฎีกาขออนุญาตกลับไปทบทวนยกร่างตามกระบวนการของกฤษฎีกา ซึ่งไม่อาจแล้วเสร็จในวันนี้

ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยกับ The Reporters ว่า หลังจากพักการประชุมเป็นเวลา 20 นาที เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่ลงตัว ในที่สุดได้หารือกันว่าจะสามารถประชุมให้จบภายในคืนนี้ได้หรือไม่ จึงสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทราบว่ามีทางเดียวคือต้องเลื่อนการประชุม เมื่อมีการเลื่อนจึงเป็นอำนาจของประธานที่ต้องสั่งให้เลื่อน โดยเป้าหมายวันนี้คือต้องการให้กฎหมายทุกฉบับได้ผ่านไปได้ ซึ่งผิดแผนไปจากเดิม จึงต้องค้างไว้รอการพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ นายชวน ยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปสมัยประชุมได้ปิดลงแล้ว จึงยังไม่สามารถประชุมได้ และต้องรอไปในเดือนพฤษภาคม หรือมีการทำเรื่องขอพระราชทานโปรดเกล้าเปิดสมัยประชุมวิสามัญอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งยังประสานไปยังรัฐบาลว่าจะสามารถเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลบอกว่าเป็นไปได้ ประธานกรรมาธิการจึงจะไปหารือเพื่อจะทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว และจะแจ้งมายังสภา จากนั้นสภาจะแจ้งไปถึงรัฐบาลเพื่อให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญในโอกาสต่อไป ซึ่งยังไม่กำหนดว่าจะเปิดเมื่อไหร่

ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า มาตรา 9 ถือเป็นหลักการสำคัญ คือมีขอบเขตว่าการทำประชามติสามารถทำด้านใดได้บ้าง ซึ่งร่างที่กรรมาธิการทำมามีกรอบอยู่ 2 ด้าน และมีคนสงวนญัตติไว้ว่าญัตติดังกล่าวแคบไป จึงควรขยายขอบเขตว่านอกจากรัฐบาลจะเห็นชอบแล้ว ควรให้บุคคลอื่นสามารถทำได้ด้วย เมื่อมีการขยายขอบเขตจึงไปกระทบต่อมาตราอื่นๆ ที่จะต้องแก้อีกหลายมาตรา จากนั้นมีการพักการประชุม และให้เวลากรรมาธิการไปปรับข้อมูลเหล่านี้ให้มีความสัมพันธ์กัน ท้ายที่สุดต้องเลื่อนการประชุม เพื่อให้เวลากรรมาธิการกลับไปปรับซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ โดยพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านเห็นด้วย เนื่องจากเป็นความจำเป็น และต้องยอมจำนนเนื่องจากไม่สามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งประธานตอบรับว่าจะมีการประสานไปทางรัฐมนตรีให้ไปหารือกัน

Related Posts

Send this to a friend