POLITICS

“ทวี” เยี่ยมให้กำลังใจ และรับฟังปัญหาสมัชชาคนจน

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมด้วย นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาเยี่ยมกลุ่มสมัชชาคนจน ที่ปักหลักชุมนุมอยู่บนถนนลูกหลวง ใกล้ทำเนียบรัฐบาล นานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว โดยได้เดินเยี่ยมให้กำลังใจและพูดคุยกับกลุ่มสมัชชาคนจน ซึ่งเดินทางมาจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ต่างสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนที่แตกต่างกัน ส่วนมากได้รับความเดือดร้อนจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า การแก้ปัญหานี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล เพราะจากที่ฝ่ายค้านได้มารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนแล้ว พบว่าปัญหาเกิดจากกฎหมายที่มาออกในภายหลัง หลายกรณีมีการพิสูจน์แล้วว่ากฎหมายไปละเมิดที่อยู่ของพี่น้องประชาชน เช่นการประกาศพื้นที่ป่าทับพื้นที่ที่ประชาชนอาศัยอยู่ก่อน โดยในยุค คสช.ได้แก้กฎหมายในหมวดที่มีอัตราโทษสูง ฝ่ายค้านได้รวบรวมข้อมูลให้คณะทำงาน 7 พรรคฝ่ายค้าน เพื่อส่งต่อให้ ส.ส. นำไปขับเคลื่อนในสภา บางส่วนนี้ไม่พ้นว่าจะต้องแก้กฎหมาย แต่บางส่วนเป็นเรื่องของความยุติธรรม

ซึ่งกระบวนการยุติธรรมก็จะต้องให้ความยุติธรรมกับประชาชน ฝ่ายค้านไม่ได้มาเพื่อกดดันรัฐบาล แต่มาเพื่อแก้ปัญหาเพื่อประชาชนคนไทยด้วยกัน จะได้ช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ เราจะเห็นว่ารัฐบาลนี้สนับสนุนแต่กลุ่มทุนมากกว่าชาวบ้านในพื้นที่ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งที่ดินราชพัสดุและ ส.ป.ก. จะยกให้นายทุนทั้งหมด ขณะที่ชุมชนที่ผู้คนอาศัยกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หากมีปัญหากฎหมายทับซ้อนกันแบบนี้เราจะต้องยึดกฎหมายใหญ่คือรัฐธรรมนูญ

ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะไม่เห็นแสงสว่างจากการจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้เลย เพราะงบประมาณนี้มีรายจ่ายประจำสูงถึง 2.7 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะรัฐบาล คสช. จะใช้คำใหม่ คืองบบูรณาการ ซึ่งตั้งงบไว้ 230,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มีการประเมินผลการใช้งบประมาณ มองว่างบประมาณส่วนนี้น่าจะนำไปใช้เป็นงบสวัสดิการการศึกษา หรือสวัสดิการคนยากจน หรือเรื่องที่ดินยังได้เลย และอีกส่วนหนึ่งพบว่างบประมาณจำนวนมาก จัดงบประมาณโดยไม่มีข้อมูลเช่นงบวิจัย ปีนี้ตั้งงบไว้ 20,000 กว่าล้านบาท เปรียบเทียบย้อนหลังจะพบว่ามีงบประมาณส่วนนี้แสนล้าน งานวิจัยมีมากมายแต่ไม่นำผลการวิจัยมาใช้ในการจัดการงบประมาณ

วันนี้มีเวทีเสวนาสภาที่สาม ว่างบประมาณใช้ในการพัฒนาประเทศได้หรือไม่ ส่วนใหญ่นักวิชาการยังมองไม่เห็นอนาคต หลายคนมองว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนผู้มีอำนาจ และประชาชนจะไม่ได้อะไรมาก หรือเรียกว่างบประมาณเพื่อสนับสนุนศักดินา พรรคฝ่ายค้านมีหน้าที่ชี้ให้ประชาชนเห็น หากจัดงบประมาณใหม่ได้ ก็ควรต้องจัดงบประมาณใหม่ เพราะเราเก็บภาษีได้ 2.7 ล้านล้านบาท กู้เงินมาอีก 5 แสนล้านบาท เท่ากับงบกลาง สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอย่างมาก งบประมาณนี้คือศูนย์รวมของความเหลื่อมล้ำ ประชาชนที่อยู่ในชนบทต่างจังหวัดแทบจะไม่เห็นประโยชน์จากการแบ่งงบประมาณเลย

นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ปัญหาของพี่น้องประชาชนมีมาอย่างยาวนานมีการเรียกร้อง 20-30 ปี แต่การแก้ไขปัญหายังไม่ตอบสนองต่อปัญหาที่ประชาชนเรียกร้อง แม้แต่รัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่มีคำตอบ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีคำตอบให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เราจะเขียนว่ามีการจัดสรรงบประมาณกลางในจำนวนที่สูงมากซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใช้งบประมาณก้อนนี้ ส่วนงบประมาณการจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมจะเห็นว่า มุ่งไปที่การเยียวยามากกว่าการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำ พรรคฝ่ายค้านจะทำหน้าที่สะท้อนเสียงความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อนำไปผลักดันแก้ไขในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

Related Posts

Send this to a friend