POLITICS

กมธ.พัฒนาการเมือง จี้ กกต.ประกาศเลือกตั้งครบทุกเขต พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบเวทีนิคมอุตสาหกรรมจะนะ

วันนี้ (9 ก.ค. 63) ที่อาคารรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกลในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน แถลงต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าในการประชุมของคณะกรรมาธิการ เกี่ยวกับกรณีการติดตามการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ไม่แน่นอน ยังมีเรื่องเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ทางกมธ.ติดตามมาโดยตลอด ความคืบหน้าล่าสุด คือ ประเด็นที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าชี้เเจ้งต่อกมธ. ว่า คณะรัฐมนตรี ( ครม.) ต้องรอ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน ซึ่งล่าสุด มีการประกาศของกกต. ในราชกิจจานุเบกษา จำนวน 19 เขตเลือกตั้งก่อน โดยทางกกต.แจ้งมาว่า จะสามารถเเบ่งเขตเลือกตั้งได้ครบทุกเขต ภายในสิ้นเดือนนี้

“สิ่งที่ผมกังวล ไม่ใช้เรื่องเทคนิค เเต่เป็นขอบเขตอำนาจว่าเหตุใด กกต. ไม่มีอำนาจในการประกาศขอบเขตเลือกตั้งทุกเขตได้ ในทุกระดับทั้งในส่วน อบจ. อบต. เเละการกระทำเเบบนี้มันมีธงหรือไม่ ในการเอื้อพวกพ้อง เพื่อเข้ามาสืบทอดอำนาจของรัฐบาล เเละผมอยากให้ประชาชน สื่อมวลชนร่วมจับตา และเราไม่สนว่าใครจะเเพ้ใครจะชนะ เเต่การเลือกตั้งท้องถิ่นจะต้องเกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น ที่โหยหาการเลือกตั้งมากว่า 7 ปี บางแห่ง 10 ปี” ปดิพัทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงกรณีนิคมอุตสาหกรรมจะนะว่าจากกรณีที่ ไครียะ ระหมันยะ ลูกสาวเเห่งทะเลจะนะ พร้อมคณะยื่นหนังสือต่อกมธ.เพื่อให้ตรวจสอบเเละติดตามการจัดตั้งเวทีรับฟังความคิดเห็น กรณีก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อ.จะนะ จ.สงขลา ที่รัฐใช้กลไกของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) แทรกเเซงนั้น

ทางกมธ. มีมติลงพื้นที่ศึกษาปัญหาเเละตรวจสอบกรณีการจัดเวทีรับฟังความฟังความคิดเห็น ณ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อ.จะนะ จ.สงขลา ในวันเสาร์ ที่ 11 กรกฎาคม 2563 ว่าเหตุใด ศอ.บต ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ต้องมาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแทนภาคเอกชน ที่ไม่ใช่ขอบเขตเเละอำนาจหน้าที่ของ ศอ.บต โดยจะสามารถเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนได้อย่างเสรีได้หรือไม่ เเละเหตุใดต้องมีการจัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร เพื่อรับมือประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ยังประกาศใช้อยู่

“เวทีนี้อาจจะเป็นแค่ตรายางในการแสตมป์ และเราไม่รู้ถึงเนื้อหาในเวทีจะเป็นอย่างไร เเละจะมีการเผยเเพร่ต่อสาธารณชนหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการลิดรอนสิทธิ์เเละเสรีภาพประชาชน” ปดิพัทธ์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend