POLITICS

‘ทักษิณ’ ใช้ชื่อ ‘Tony’ ร่วมวง ‘Clubhouse’ เปิดห้อง ‘ไทยรักไทย ใครเกิดทันมากองตรงนี้’ ไม่กี่นาทีห้องแตก ถูกถามยับอดีตนโยบาย

“ทักษิณ” ใช้ชื่อ “Tony” ร่วมวง “Clubhouse” เปิดห้อง “ไทยรักไทย ใครเกิดทันมากองตรงนี้” ไม่กี่นาทีห้องแตก ถูกถามยับอดีตนโยบายตั้งแต่ประชานิยม-30 บาทรักษาทุกโรค-แก้จน-ทัวร์นกมิ้น จนเรื่องกรือเซะ-ตากใบ บอกจำไม่ได้แต่เสียใจ แนะคนรุ่นใหม่สนใจแก้รัฐธรรมนูญดีกว่า เมื่อถามถึงการปฏิรูปสถาบันฯบอกว่าอยู่ไกล ไม่ตอบเรื่องยกเลิก 112 ส่งผลทวิตเตอร์เดือด
 
เมื่อค่ำวันที่ 22 ก.พ.64 กลุ่มแคร์ เปิดห้องใน Clubhouse แอพพลิเคชั่นใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของคนไทย ตั้งชื่อห้องพูดคุยว่า “ไทยรักไทย ใครเกิดทันมากองตรงนี้” โดยมีผู้พูดเช่น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรมว.สาธารณสุข นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งมีผู้พูดคนสำคัญโผล่รวมวง คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนนายดวงฤทธ์ บุนนาค และนายธีรัชต์ รัตนะเสวี ทำหน้าที่เป็น moderator พูดคุยกันนานถึง 2 ชม.และหลังจากเปิดห้องไม่กี่นาที มีผู้เข้าฟังเต็มห้อง 8,000 คน จนมีการนำเสียงขยายไปอีกไม่ต่ำกว่า 5 ห้อง มีคนเข้าร่วมฟังไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน
 
การพูดคุยจะมีผู้เข้ามาร่วมสอบถามนายทักษิณถึงนโยบายที่เคยประสปความสำเร็จในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2543-2548 ก่อนที่จะถูกรัฐประหารในปี 2549 เช่น นโยบายประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค ผู้ว่า CEO นโยบายแก้จน และอาจสามารโมเดล แต่มีหลายคำถาม ที่กลายเป็น เทรนด์ในทวิตเตอร์ จากการตอบของ นายทักษิณ เช่น ผู้ร่วมพูดคุยคนหนึ่งถามถึงเหตุการณ์กรือเซะ และตากใบ ในปี 2547 ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
 
นายทักษิณ ตอบว่า
“ที่กรือเซะ ส่วนใหญ่อยู่ในความควบคุมของทหาร ผมเป็น นายกรัฐมนตรีอยู่ก็รับรายงาน แต่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้มากมาย เข้าใจอะไรได้มากมาย ก็เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ ขึ้น จำไม่ค่อยได้ จำได้ว่ามีการยิงปะทะกันมากกว่า จำไม่ค่อยได้ แต่ก็เสียใจกับสิ่งที่เหตุการณ์”
 
ขณะที่นพ.พรหมมินทร์ มาตอบแทนว่า
“ในขณะนั้นผมเป็นอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องกรือเซะเป็นปฏิบัติการที่ช่วงนั้นมีกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการต่อต้านรัฐ มีการประกาศกฏอัยการศึก ทหารควบคุมสถานการณ์ เราจะไม่รู้ปฏิบัติการ พอถึงค่ำ พบว่ามีการใช้อาวุธ มีการปะทะกัน มีผู้เสียชีวิตหลายราย ฝ่ายนโยบายไม่ทราบรายละเอียด จนเกิดปัญหาขึ้น ทางฝ่ายนโยบายก็สอบสวน ฝ่ายสูญเสียก็ไม่พอใจ แต่สุดความสามารถที่เราจะเข้าไปจัดการได้”
 
ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวเสริมว่า
” ผมเรียนตรงๆ จากที่มีโอกาสทำงานร่วมกัน บางเรื่องที่ท่านมีความรู้สึกพูดไปแล้ว และเป็นปัญหากับคนอื่น จึงไม่อยากจะพูด เรื่อง ตากใบ กรือเซะ มีเรื่องสลับซับซ้อนมากมาย คนที่ศึกษาจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ เชื่อว่าคุณทักษิณ ไม่อยากพาดพิง จึงไม่อยากพูด อยากให้ไปหารายละเอียดว่ารัฐบาลขณะนั้นเจอปัญหาเรื่องอื่นอีก ถ้าจะบันทึกประวัตศาสตร์จริงก็จะมีการศึกษากัน”
 
จากคำตอบของนายทักษิณ ทำไมประเด็นนี้กลายเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์ว่า #ตากใบจำไม่ได้ ขณะที่คำถามเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ ก็เป็นที่น่าสนใจ เมื่อผู้ร่วมพูดคุยคนหนึ่งถามว่า เด็กรุ่นใหม่จะเชื่อมั่น
 
ระบบการเมืองอย่างไร ในเรื่องนี้ นายทักษิณ ตอบว่า
 
“ผมว่าน่าจะผลักดันแก้รัฐธรรมนูญดีกว่า รัฐบาลจะดีหรือเฮงซวยอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ผมมาจากรัฐธรรมนูญปี 40 นั้นดีมาก ซึ่งรัฐธรรมนูญที่มาจากทหาร ไม่มีทางดีหรอก เพราะจะ serve เผด็จการ คนรุ่นใหม่ ถ้าจะผลักดันให้ได้การเมืองดีๆ ผลักดันรัฐธรรมนูญชดีกว่า ตอนผมอยู่ รัฐธรรมนูญดี 4 ปี นี่สบาย ตอนหลังที่มีปัญหา เพราะต้องการเปลี่ยน รัฐธรรมนูญ ถ้าเรามาทำ พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เหมือนอเมริกา จะดีมาก เพราะ Trust and Confidence นี่สำคัญมากสำหรับเศรษฐกิจ ทุนนิยม เรามาทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตน และ เป็นของประชาชนดีกว่า เพราะรัฐธรรมนูญที่มากจากการปฏิวัติรัฐประหาร ยังไงก็ทำเพื่อทหาร”
 
ซึ่งในประเด็นนี้มีผู้ร่วมพูดคุยมาแสดงความเห็นต่อว่า ในมุมคนรุ่นใหม่ปัจจุบันแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่พอ คนรุ่นใหม่อยากเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย
 
แต่ในเรื่องนี้ นายทักษิณ ไม่ได้ตอบ มีนพ.พรหมมินทร์ มาตอบแทนว่า เรื่องปฏิรูปสถาบันฯ คุณทักษิณ อยู่นอกประเทศคงไม่ได้ลึกซึ้งกับปัญหาขณนี้ ซึ่งในส่วน นพ.พรหมมินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
สถาบันฯอยู่มานาน ม่ีข้อเสนอให้แก้ไขก็เป็นเรื่องที่เสนอได้ ถ้าเกี่ยวข้องกับกฏหมาย เรามีสภา ที่ต้องสะท้อนเสียงประชาชนส่วนใหญ่ จะมีการแก้กฏหมายต้องเป็นตัวแทนประชาชน มีความต้องการประชการใด จึงเสนอและมีความเห็น ในนักการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชน ต้องไปปรับฟังเสียงประชาชน
 
ในขณะที่ผู้ถามเป็นผู้สื่อข่าวจากบีบีซีไทย ถามเรื่องวันนี้ 24 ก.พ.เป็นวันครบรอบ 30 ปีรัฐประหารปี 2534 ยังมีคนที่ถูกคุมคามจากรัฐบาลที่นำ ม.112 มาใช้ คถ้าคุณทักษิณ เป็นรัฐบาล จะบริหารจัดการเรือ่งนี้อย่างไร ซึ่งนายทักษิณ ไม่ขอตอบ โดยระบุว่า เราไว้คุยกันเรื่องอื่นดีกว่า ไว้ผมไปลอนดอน แล้วได้คุยกัน
 
นอกจากนี้มีผู้ถามว่าทำไม ใช้ชื่อ Tony นายทักษิณตอบว่า ตอนไปเรียนปริญญาเอก อาจารย์ผมค่อนข้างเป็น ดร.บ้านนอก จะเรียกชื่อทักษิณไม่ได้ แกก็พูดไม่ได้สักที เลยบอกไปว่าชื่อ โทนี่ ก็เรียกง่ายๆ อ.ก็เรียกได้ ก็ใช้ชื่อนี้ ก็เท่านั้นเอง 555 จนสร้างเสียงหัวเราะในห้องพูดคุย
และในระหว่างการพูดคุย บางครั้งนายทักษิณ ตอบช้า จึงบอกกับผู้ร่วมห้องว่า เพิ่งใช้ clubhouse ครั้งแรก เลยยังใช้ไม่ถนัด เพราะที่ดูไบจะแอนดรอยด์เป็นส่วนใหญ่ พอต้องเข้า cb จึงต้องมาใช้ไอโฟนอีกครั้ง
 
มีผู้ถามว่า นายทักษิณ อ่านหนังสืออะไรในขณะนี้
 
นายทักษิณ ตอบว่า ก็อ่านหนังสืออยู่เรื่อยๆ อย่างเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็อ่าน blockchain, bitcoin, Cryptocurrency และมาอ่าน Autonomous Revolution
 
นอกจากนี้นายทักษิณ ได้ตอบคำถามถึงนโนยายสำคัญในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เช่น นโยบาย
ผู้ว่า CEO โดยระบุว่า ต้องการกระจายอำนาจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านการบริหารงาน เร่งรัดงาน CEO บังคับให้เป็นเจ้าภาพ เป็นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปส่วนท้องถิ่น ที่ยังไม่ผ่านการเลือกตั้งเท่านั้น
 
ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่มาจากไทยรักไทยซึ่งเป็นพรรคที่มี solution บ้านเมือง จะแก้ปัญหาได้ดีกว่า จุดแข็งพรรคในสายไทยรักไทย เป็น solutiond provider จุดอ่อน คือ ยังต้องสร้าง leadership ที่ต้องเข้าใจ culture เดิม และโลกใหม่ คนที่มาเป็นผู้นำต้องเข้าใจปัญหาปัจจุบัน และต้องหา มาเป็น Solution
 
“แนวคิดที่ไทยรักไทยใช้นโยบาย มันปลูกฝังกลายเป็นวัฒนธรรมในการทำพรรค สายไทยรักไทย แต่ต้องปรับเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยน การให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทำผ่าน digital ได้ง่ายกว่า โดย AI ให้ปรับวิธีการจาก อนาล็อค มาเป็น ดิจิตอล แต่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่คนรุ่นเก่าใหม่ generation gap มันมีทุกที่ มันรุ่นหลาน ไม่ใช่รุ่นลูก มีคนอายุมาก แต่ทันสมัย เช่น หมอมิ้งค์ น่าจะเป็นข้อต่อระหว่างคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ได้ดี อ.พันธุ์ศักดิ์ อายุมากกว่าผมอีก แต่ทันสมัยมาก อ่านหนังสือไม่โลก คนอายุมาก แต่ยังไม่แก่ ต้องทันสมัยอยู่เสมอ” นายทักษิณ กล่าว
 
ส่วนนโยบาย ทัวร์นกขมิ้น ค่ำไหนนอนนั่น และ นโยบายแก้จน อาจสามารถโมเดล เป็นนโยบายที่อยู่ในความทรงจำของนายทักษิณ ที่ยอมรับว่า การออกเดินทาง ทัวร์นกขมิ้น เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ทุกคนทุกรุ่น ควรทำ ในการออกเดินทางไปพูดคุยกับประชาชน เพราะเรามาจากเลือกตั้ง มาจากประชาชน อยากเข้าใจประชาชน อยากไปเห็นชาวบ้านอยู่กันยังไง ลำบากกันยังไง เช่นไปอาจสามารถเห็นคนพิการเต็มไปหมด อยู่กับครอบครัวจนๆ อยู่กันยังไง เราจะช่วยเขายังไง เขาอยู๋กันยังไง เป็นหน้าที่คนที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องแสดงให้เห็นเราเข้าใจเขาจริงเราต้องไปสัมผัสจริง
สำหรับนโยบายแก้จน ดูเหมือนยากแต่ไม่ยาก ต้องสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้มากขึ้น เขาจนยังไง จะเพิ่มรายได้ เพิ่มโอกาสในการหารายได้ เช่นยกตัวอย่างง่ายๆ เขาทำเกษตร ปลูกข้าว ปลูกปีละ 2 ครั้ง ก็เอาโอทอปให้ทำ ต่อจากนั้น จะปลูกอย่างอื่นไหม เป็นเรื่องที่ดูยาก ทำไม่ยากแก้จน เสียดายผมออกมาก่อน ที่ผมประกาศ ผมครบ 60 ปี ครบ 8 ปี ในการเป็นนายกรัฐมนตรีของผม ถ้ายังอยู่คงจำได้หมด
 
ส่วนกรณีมีผู้ถามนโยบาย 30 โรค มีนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งชอบแอบอ้างว่าเป็นโยบายของตัวเอง ทั้งๆที่เป็นนโยบายที่ประสปความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย นพ.สุรพงษ์ มาตอบแทนว่า เป็นเรื่องปกติ ที่จะมีผู้นำความสำเร็จมาต่อยอดและกล่าวถึง
 
แต่ในคำถามที่ว่า ทำไม คุณประยุทธ์ ชอบโมโห เวลามีคนพูดชื่อ คุณทักษิณ
 
คุณทักษิณ ตอบว่า “ผมไม่ทราบให้ไปถามท่านเอง เพราะผมไม่เคยโมโหใคร”
 
การเข้าร่วมวง Clubhouse ครั้งแรกของนายทักษิณ กลายเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีความเห็นมากมายต่อการตอบคำถามมากมาย จนมีเทรนด์ทวิต เช่น #ทักษิณ #ตากใบ #คลับเห่า และบางคอมเมนต์ที่มีการรีทวิตจำนวนมาก เช่นระบุว่า ทักษิณมา clubhouse แล้ว ลุงยังอยู่ Tictok
 
การพูดคุยในห้อง Clubhouse ช่วงหนึ่ง The Reporters ได้รับอนุญาตจากกลุ่มแคร์ ผู้ตั้งห้อง นำเสียงมาเผยแพร่ได้ตามกฏ แต่เนื่องจากกฎของ Clubhouse ไม่สามารถให้บันทึกเสียงได้ ซึ่งในไลฟ์สดมาย้อนฟังเสียงได้ เพื่อเคารพกฎ The Reporters จึงลบไลฟ์สดไปแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม

Related Posts

Send this to a friend