แต่งหน้ารับซีซันฤดูฝน ฉบับสาวเอเชีย VS สาวยุโรป เน้นบางเบาไม่หลุดเลอะ ด้วยเครื่องสำอางกันน้ำ
แต่งหน้าอย่างไรไม่หลุดเลอะในวันที่ต้องเจอฝน เป็นคำถามที่สาวๆหลายคนสนใจ ส่วนหนึ่งเพราะบ้านเรากำลังเข้าสู่ฤดูฝน และการแต่งหน้าก็เป็นสิ่งที่ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณสาวๆ ไม่ว่าจะออกไปทำงานหรือทำธุระนอกบ้าน ที่แม้จะยังต้องสวมแมสก์อยู่ก็ตาม ดังนั้นนอกจากเรื่องเทรนด์แต่งหน้าที่มาแรงในซีซันนี้ การเลือกเครื่องสำอางกันน้ำ หรือวอเตอร์พรูฟ (Waterproof) ก็เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เช่นกัน เพราะสิ่งจะช่วยเซฟเมคอัพบนใบหน้าของคุณ ไม่ให้หลุดหลอกได้ง่าย
The Reporters ได้สอบถามไปยัง “กมล ฉัตรเสน” Make Up Artist ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์แต่งหน้ารับหน้าฝน 2 ลุค 2 สไตล์ที่คุณสาวๆสามารถเลือกแต่งตามกันได้ ทั้งสไตล์สาวเชีย และสาวยุโรป ที่ช่วยให้สวยและดูดีที่สำคัญบางเบา และไม่ให้รู้สึกเหนอะหนะเวลาที่แต่งตาม และการเลือกเครื่องสำอางกันน้ำ ซึ่งถือเป็นไอเทมชิ้นสำคัญ ที่จะช่วยป้องกันการหลุดเลอะ หลังลงเมคอัพฉ่ำวาวแล้ว
กมล ให้ข้อมูลว่า “เทรนด์การแต่งหน้าในช่วงฤดูฝนนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือการเลือกเครื่องสำอางกันน้ำหรือ Waterproof ทุกชนิด ตั้งแต่งรองพื้น อายแชโดว์ บรัชออน อายไลน์เนอร์ ลิปสติก ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เมคอัพ หลุดลอกเวลาที่แต่งหน้า สำหรับเทรนด์แต่งหน้าที่มาแรงในซีซั่นหน้าฝนนั้น ประกอบด้วย 2 สไตล์ คือ การแต่งหน้าสไตล์สาวเอเชีย และสาวยุโรป”
“ทั้งนี้สาวๆที่เลือก “แต่งหน้าสไตล์สาวเอเชีย” นั้น จะเน้นผิวที่สว่างและดูโกว์กระจ่ายใส โดยเริ่มจากการลงรองพื้นที่ปัจจุบัน มักจะดีไซน์ให้เป็นธรรมชาติ เพราะปัจจุบันสาวๆไม่นิยมใช้รองพื้นที่มีความหนาเกินไป แต่นิยมรองพื้นที่เน้นให้ใบหน้า ดูสว่างแต่บางเบา หรือให้อารมณ์แบบแต่งหน้าเหมือนไม่แต่งนั่นเอง ที่สำคัญหากสาวๆต้องการแต่งหน้าสไตล์นี้ เพื่อให้ดูทันสมัย จะต้องไม่เน้นการแรเงามาก หรือ แต่งให้ดูมีลักษณะแบนไม่จำเป็นต้องมีมิตินั่นเอง แต่ทั้งนี้สามารถเพิ่มไฮท์ไลท์ เพื่อให้ใบหน้าดูเด่นขึ้นมาได้ เช่น คนที่รูปหน้ากลม หรือรูปหน้าแบน สามารถเน้นการไฮท์ไลท์ ที่บริเวณด้านข้าง หรือบริเวณสันกราม เพื่อให้หน้าของเราดูยาวเรียวยิ่งขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องลงไฮท์ไลท์เข้มเกินไปเช่นกัน”
ส่วนการแต่งบริเวณดวงตา ก็ไม่จำเป็นต้องคัดเบ้าตาเข้มแล้ว แต่แนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นกรีดอายไลน์เนอร์แบบเส้นเดียวเป็นเส้นตรง ไม่ว่าจะเป็นสาววัยรุ่น และสาวรุ่นใหญ่ โดยกรีดอายไลน์เนอร์เป็นเส้นตรงและเฉียงขึ้นเล็กน้อย ที่บริเวณหางตาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกรีดเต็มทั้งดวงตา ทั้งนี้สาวๆคนไหนที่ตาเล็ก ก็แนะนำให้เพิ่มขนตาปลอม โดยการติดขนตาปลอมเพียงครึ่งตาเท่านั้น เพื่อเน้นให้ตาดูโตและรูปตาดูยาวมากขึ้น ส่วนปากนั้นไม่เน้นการทาปากที่ดูเข้มและคมชัด แต่เน้นการทาปากให้มีลักษณะปากเบิร์น หรือปากเบลอๆฟุ้งๆ ด้วยการใช้ลิปสติก 2 สี คือ ให้ทาสีเข้มไว้ด้านในปาก ส่วนบริเวณขอบปากให้ทาลิปสติกสีอ่อน ที่สำคัญให้เน้นเลือกครีมสำอางกันน้ำเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันเวลาที่เราโดนฝน แล้วจะได้ไม่หลุดลอก
“ส่วน “การแต่งหน้าสไตล์สาวยุโรป” เน้นการแต่งหน้าสไตล์เข้ม และเน้นลงเมคอัพ เพื่อทำให้ดูดวงตายาว ทั้งนี้แนะนำใช้แปรงปัดโครงหน้าให้มีความชัดขึ้น และคมเข้ม โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หรือคิ้ว ส่วนการเขียนคิ้วจะเน้นเขียวคิ้วใหญ่ สำหรับการทาปากนั้นเน้นโทนสีที่มีสีสัน ที่ช่วยทำให้ปากดูคมชัดขึ้น ส่วนการเลือกเมคอัพก็คล้ายกัน คือการเลือกกันน้ำทุกชนิด”
การบำรุงผิวหน้าที่ดี ต้องเลือกครีมบำรุงเหมาะกับสภาพผิว
“สำหรับการบำรุงผิวหน้าก็เป็นสิ่งจำเป็นมาก ไม่ว่าสาวๆจะเลือกแต่งหน้าสไตล์ไหน เพราะการที่ให้ความสำคัญกับการเลือกครีมบำรุงหน้า ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยา แต่จะทำให้การแต่งหน้านั้นติดทนนานเช่นกัน ที่สำคัญต้องเลือกครีมบำรุงผิวหน้า ให้ตรงกับสภาพผิวของเรา จึงแนะนำให้ลองศึกษาและหมั่นสังเกตว่า เรามีผิวหน้าอย่างไร เช่น ถ้าแต่งหน้าเสร็จแล้ว ประมาณ 5-10 นาที เริ่มมีน้ำมันออกมาปนกับเครื่องสำอางของเรา นั่นแปลว่าเรามีผิวมัน แต่ถ้าสังเกตแล้วมีน้ำมันออกมาที่บริเวณทีโซน เช่น หน้าผาก จมูก คาง หมายความว่าเราเป็นคนผิวผสม ซึ่งผิวผสมนั้นเป็นผิวที่พบได้มากที่สุดในกลุ่มสาวไทย ส่วนผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะมีลักษณะผิวแห้ง นอกจากนี้ยังมีบางคนที่มีลักษณะผิวแพ้ง่าย หรือแพ้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ก็ควรเลือกครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวแพ้ง่าย”
“ทั้งนี้ขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้การแต่งหน้านั้น คือการล้างทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่ง เพื่อเช็ดทำความสะอาดใบหน้า ซึ่งเป็นการล้างเครื่องสำอางออกก่อนเป็นด่านแรก เพื่อป้องกันสิวอุดตัน จากนั้นจึงล้างหน้า ด้วยโฟมล้างหน้าให้สะอาดอีกรอบค่ะ”
