INVESTMENT

บอร์ด SHR เตรียมจ่ายปันผลครั้งแรกพฤษภาคมนี้ หลังกวาดรายได้นิวไฮ ดันกำไรสุทธิโต 5 เท่า

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (SET: SHR) ในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S) เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งแรกหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายหลังบรรลุเป้าหมายรายได้จากการขายและให้บริการในปี 2566 ในระดับสูงที่สุดในประวัติการณ์ จำนวน 9,701 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า พร้อมประกาศกำไรสุทธิเติบโต 5 เท่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมซึ่งคำนวณเฉพาะห้องพักที่เปิดให้บริการของบริษัท อยู่ที่ 71% ปรับเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า ด้วยความมุ่งมั่นในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้รายงานกำไรสุทธิที่ 86.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 501% จากปีก่อนหน้า

นายไมเคิล เดวิด มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าวว่า บริษัทฯ บันทึกผลการดำเนินงานสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกมิติตัวชี้วัด ทั้งยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในทุกภูมิศาสตร์ที่ตั้ง โดยโรงแรมในไทยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 59% จากปีก่อนหน้า และมีอัตราการเข้าพักที่ไม่รวมห้องพักที่อยู่ระหว่างปิดปรับปรุง 78% ขณะที่โรงแรมของในสหราชอาณาจักร มีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นต่อเนื่อง สามารถบันทึก RevPAR ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับโรงแรม 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สร้างรายได้เติบโต 4% ผลการดำเนินงานกลุ่มโรงแรม Outrigger แม้จะถูกจำกัดด้วยจำนวนห้องที่สามารถขายได้ (Available room) จากการปิดให้บริการชั่วคราวของ Outrigger Mauritius Beach Resort เพื่อปรับปรุงระบบบริหารจัดการน้ำในระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคมของปี 2566 อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานโรงแรมทั้งสองแห่งในสาธารณรัฐฟิจิยังคงเติบโตแข็งแกร่งและชดเชยผลกระทบดังกล่าว ผลักดันให้ ADR เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 22% จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับความเชื่อมั่นเป็นอย่างดีจากกลุ่มนักลงทุน สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ต่อนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกที่มียอดจองซื้อสูงเกินกว่าเป้าหมายด้วยมูลค่า 1,300 ล้านบาท อีกทั้งปีที่ผ่านมายังประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ เช่น แผนการปรับปรุงโรงแรมหลักของบริษัทฯ โดยคาดว่าห้องพักที่ได้รับการปรับปรุงแล้วจะยกระดับ ADR ได้เฉลี่ยในช่วง 15-25%

จากความสำเร็จทั้งหมดในรอบปีที่ผ่านมา เป็นผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในอัตรา 0.015 บาทต่อหุ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้จะมีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ เห็นสัญญาณบวกที่แข็งแกร่งในปี 2567 จากจำนวนนักท่องเที่ยว และความเต็มใจใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศไทย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ประกอบกับรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ที่เพิ่มขึ้นจากผลสำเร็จของการปรับปรุงห้องพักและยกระดับมาตรฐานของโรงแรมในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการต่อยอดรากฐานทางธุรกิจอันมั่นคง บริษัทฯ จะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลกำไรในปี 2567 ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

1.มุ่งเน้นให้ RevPAR เติบโตในทุกภูมิศาสตร์ที่โรงแรมของบริษัทดำเนินการอยู่ ควบคู่ไปกับการเติบโตของรายได้อื่นนอกเหนือจากการเข้าพัก นำเสนอเมนูใหม่ ๆ พร้อมประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ และแผนเปิดตัวบีชคลับในทุกรีสอร์ทในเครือทราย (SAii)

2.ยกระดับพอร์ตโฟลิโอและหมุนเวียนสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการระยะที่ 2 ตามแผนการปรับปรุงโรงแรมในประเทศไทยที่ ทราย ลากูน่า ภูเก็ต และ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และรีแบรนด์โรงแรมที่เหมาะสมและมีศักยภาพในสหราชอาณาจักร

3.ยกระดับแบรนด์ทราย (SAii) ให้มีมาตรฐานระดับสากล สร้างการจดจำแบรนด์ในฐานะจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวแบบลักชูรีอย่างยั่งยืน ต่อยอดสร้างการเติบโตที่ยืดหยุ่นขึ้นและมีข้อจำกัดที่ลดลง ทั้งภายใต้โมเดลธุรกิจแบบ Asset-Light และการร่วมทุน

4.จัดสรรงบการลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาทเพื่อซื้อและควบรวมกิจการ ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า สร้างความหลากหลายให้แก่พอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ และสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนในด้านรายได้และกำไร ลดความผันผวนทางฤดูกาลของโรงแรมในเครือ

Related Posts

Send this to a friend