INVESTMENT

SHR เปิดแผนกลยุทธ์ปี 66 ตั้งเป้าทำรายได้สูงสุดต่อเนื่องทะลุหมื่นล้าน

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและการลงทุนชั้นนำในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนธุรกิจสร้างรายได้โตกว่าหมื่นล้านในปี 2566 เชื่อมั่นโต 20% จากปีก่อน หลังรายได้ปี 2565 ทะลุเป้าที่ 8.7 พันล้าน ด้วยกลยุทธ์สร้างความหลากหลายที่สมดุล เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งผนวกกับแรงหนุน จากการเปิดประเทศฟื้นการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ดันกลยุทธ์ 3P สร้างผลกำไร ขยายพอร์ตธุรกิจ เพื่อครองตำแหน่งผู้ประกอบธุรกิจ บริหารจัดการโรงแรมรายได้สูงสุดเป็นอันดับต้นของไทยอย่างต่อเนื่อง

นายเดิร์ก เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หลังการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับกลยุทธ์ผลักดันธุรกิจ และเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่าย ที่แข็งแกร่งของบริษัท ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ ของ SHR เติบโตได้เต็มอัตรา และมีผลการดำเนินงานที่ขยายตัวสูงสุด เป็นประวัติการณ์ของโรงแรมในหลายประเทศ โดยเราสามารถปรับค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน หรือ ADR ในระดับที่สูงขึ้นกว่า ช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 และเป็นระดับที่สูงที่สุด มาตั้งแต่เปิดให้บริการมาอีกด้วย”

เสริมทัพด้วยการฟื้นตัวของโรงแรมในประเทศไทย ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ส่งผลให้ SHR กวาดรายได้เกินกว่าเป้าหมาย ที่วางเอาไว้ สู่ 8.7 พันล้าน ก้าวขึ้นแท่นผู้ประกอบธุรกิจ บริหารจัดการโรงแรมของไทย ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้วบริษัทได้รับการยกย่อง ให้บรรจุอยู่ใน “รายชื่อหุ้นยั่งยืน” ประจำปี 2565 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พร้อมคะแนนจากการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรักษาความสมดุลต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่มีคุณภาพ

ส่วนในปี 2566 เป็นปีแห่งการผลักดัน ผลประกอบการให้เติบโตโดนเด่น พร้อมใช้กลยุทธ์เสริมจุดแข็งธุรกิจ และการขยายช่องทางการขาย เพื่อดึงดูดลูกค้าที่หลากหลายจากทุกมุมโลก ซึ่งทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของ SHR ในปี 2566 จะรองรับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยบริษัทฯตั้งเป้าครองตำแหน่ง ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทยอย่างต่อเนื่อง ทำรายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 20% จากปีก่อน (YoY) โดยแผนการดำเนินงานที่จะผลักดันให้รายได้บริษัทฯ สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายนั้น มาจากจุดแข็งของ SHR ในด้านความหลากหลาย ของพอร์ตโฟลิโอ (diversified portfolio) สามารถดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มจากทั่วโลก โดยหลังการเปิดประเทศอย่างสมบูรณ์ คาดว่า โรงแรมเครือที่ประเทศไทยทั้ง 4 แห่ง จะเป็นฟันเฟืองหลักในการผลักดันการเติบโตของปี 2566 นี้ ซึ่งตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ประมาณ 60% จากปีก่อนหน้า (YoY) คิดเป็นอัตราส่วน 16% ของรายได้รวมของบริษัทฯ ในขณะที่รายได้จากโรงแรมในมัลดีฟส์ และสหราชอาณาจักรจะเติบโตขึ้น 30% และ 10% จากปีก่อน (YoY) คิดเป็นอัตราส่วน 31% และ 36% ตามลำดับ

นอกจากนี้ SHR ยังเล็งเห็นความสำคัญ ของการนำดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ในการกำหนดราคาห้องพักของโรงแรมในเครือ ให้เหมาะสมตามฤดูกาลและตอบสนองความต้องการแบบเรียลไทม์ สามารถบริหารจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทำกิจกรรมทางการตลาดออนไลน์ เจาะกลุ่มตลาดที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มอัตราการจองห้องพักโดยตรง (Direct booking) และสามารถผลักดันค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยปีนี้เราคาดว่าอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ของโรงแรมในเครือทั้งหมด จะอยู่ที่ประมาณ 75% เมื่อเทียบกับผลประกอบการในปี 2565 ซึ่ง SHR สามารถรายงานผลกำไรที่พลิกกลับมาเป็นบวกได้สำเร็จ จากอัตราการเข้าพักที่ระดับเพียง 60% ดังนั้น เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ณ ระดับการเข้าพักเป้าหมายที่ระดับ 75% นี้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนผลกำไรของ SHR ในปี 2566 ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อสร้างฐานกำไรใหม่ให้กับ SHR สำหรับรองรับการขยายการเติบโตในอนาคต”

ส่วนการสร้างผลกำไรและการขยายพอร์ตธุรกิจ ให้มีความหลากหลายคือรากฐานที่สำคัญ สู่การต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯมีการวางกลยุทธ์ เพื่อขยายพอร์ตธุรกิจผ่านสามแนวทางสำคัญ ได้แก่ การหมุนเวียนและต่อยอดการลงทุนสินทรัพย์ (Asset Rotation & Enhancement) โดย SHR จะทำการขายสินทรัพย์ที่มีการเติบโตจนเต็มมูลค่าแล้ว เพื่อนำรายได้จากการขายผนวกกับการลงทุนเพิ่มเติมอีกราว 16 ล้านปอนด์ ไปพัฒนาสินทรัพย์ศักยภาพสูง ที่สามารถสร้างการเติบโตต่อไปได้ในอนาคต โดยกลุ่มโรงแรมที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆคือธุรกิจในสหราช

Related Posts

Send this to a friend