INVESTMENT

บีโอไอ -กต. -ไจก้า จัดประชุมพัฒนาหน่วยงาน และส่งเสริมการลงทุนภูมิภาคอาเซียน-เอเชียใต้

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ร่วมกับ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) กระทรวงการต่างประเทศ และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) เดินหน้าพัฒนาศักยภาพหน่วยงาน ส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียใต้ โดยเปิดอบรมหลักสูตร “Workshop on Investment Promotion and Enhancing Industrial Competitiveness for Mekong and South Asian Countries”ระหว่างวันที่ 6 -17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) อาคารจามจุรีสแควร์

พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันบริบทในด้านต่างๆของโลก เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สังคม ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวให้ทัน ต่อแนวโน้มดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุนในฐานะหนึ่งในหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจ จึงให้ความสำคัญอย่างมาก กับการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ ให้สามารถปรับตัวให้ทันกับกระแสโลก ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ในกิจการเป้าหมายที่เป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หลังผลกระทบจากวิกฤตต่างๆ ซึ่งหนึ่งในการสนับสนุนนั้น คือการยกระดับความสามารถของหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ร่วมกันในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียใต้”

ทั้งนี้กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย จึงได้ร่วมกับกรมความร่วมมือ ระหว่างประเทศ (TICA) กระทรวงการต่างประเทศ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จัดการอบรมหลักสูตร “Workshop on Investment Promotion and Enhancing Industrial Competitiveness for Mekong and South Asian Countries” ให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูง ของหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา บังคลาเทศ เนปาล และศรีลังกา ระหว่างวันที่ 6 -17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) ชั้น 18 อาคารจามจุรีสแควร์ ซึ่งการอบรมลักษณะนี้ บีโอไอให้การสนับสนุนต่อเนื่องมาหลายปี ยิ่งเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์กับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ของแต่ละประเทศในการทำงานร่วมกันด้วย

“ที่ผ่านมาบีโอไอให้ความสำคัญ กับการอำนวยความสะดวก และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน และมีการปรับตัวทางด้านนโยบาย และการบริการอย่างต่อเนื่อง ตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ โดยล่าสุดได้ประกาศใช้ยุทธศาสตร์ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 -2570) ภายใต้แนวคิดส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญ พร้อมทั้งพัฒนาและปรับประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่อยกระดับการให้บริการแก่นักลงทุน และลดภาระของผู้รับบริการ ครอบคลุมกระบวนงานหลัก ของสำนักงานตั้งแต่การให้บริการข้อมูล การให้คำปรึกษาด้านการลงทุนผ่านระบบนัดหมาย และประชุมออนไลน์ การขอรับส่งเสริมการลงทุน ไปจนถึงสิทธิประโยชน์”

“หรือแม้กระทั่งการเชื่อมโยงการซื้อขายชิ้นส่วน โดยการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ และในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและธนาคารแห่งประเทศไทย จัดตั้งบริการช่องทางอำนวยความสะดวกออนไลน์ สำหรับกิจการสำนักงานภูมิภาคครบวงจร หรือ HQ Biz Portal ซึ่งการเชื่อมโยงการทำงานนี้ จะเป็นตัวอย่างการปรับปรุงการบริการ เพื่อตอบโจทย์การเคลื่อนย้ายการลงทุน อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลง ทางด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของโลกในปัจจุบัน”

Related Posts

Send this to a friend