เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 พะตีตาแยะ ยอดฉัตรมิ่งบุญ ผู้อาวุโสชาวปกาเกอะญอและปราชญ์ชาวกะเหรี่ยง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐนำโดยอุทยานแห่งชาติป่าแก่งกระจานได้สนธิกำลังในยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร โดยนำชาวบ้านบางกลอยที่อพยพกลับไปอยู่ในหมู่บ้านเดิมป่าใจแผ่นดินกลับลงมา ว่าวันก่อนที่ไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน ภาครัฐรับปากว่าจะไม่มีคุกคามชาวบ้านอีก ถ้ารัฐใช้กำลังบังคับก็เท่ากับข้อตกลงที่ทำร่วมกันไว้ไม่มีประโยชน์ และชาวบ้านก็คงต้องสู้ต่อไป ซึ่งตนเชื่อว่าขณะนี้คนกรุงเทพฯ รวมทั้งคนในสังคมไทยได้รับรู้ข้อเท็จจริงเยอะขึ้นมากเมื่อเทียบกับการบังคับย้ายชาวบ้านเมื่อปี 2554 โดยเฉพาะเรื่องการใช้อำนาจของราชการ
พะตีตาแยะกล่าวถึงข้ออ้างของทางการที่ระบุว่าชาวบ้านบางกลอยเผาไร่หมุนเวียน ว่าเท่าที่ดูจากภาพเห็นได้ชัดเจนว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินในแปลงดั้งเดิมโดยไม่ได้เป็นการบุกรุกป่าใหม่ ทราบว่าชาวบ้านกำลังร่วมกันทำข้อมูลอยู่ว่าแต่ละปีได้ข้าวเท่าไหร่ เพื่อชี้แจงให้หน่วยงานรัฐเข้าใจวิถีชีวิตของเขา จึงไม่ได้บุกรุกป่า เพราะการทำไร่หมุนเวียนนั้น ปลูกข้าวและพืชต่างๆ 1 ปีแล้วทิ้งไว้ให้ดินฟื้นตัว แล้วไปทำไร่หมุนเวียนแปลงอื่นที่ฟื้นตัวแล้ว