กรมสุขภาพจิต เผยประชาชนเครียดสูงขึ้นช่วงรอผลเลือกตั้ง วอนรับความเห็นต่าง

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากกระแสความใส่ใจในการเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในการเลือกตั้ง กรมสุขภาพจิตได้ติดตามสถานการณ์ทางอารมณ์และสุขภาพจิตของประชาชนอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกับในทุกครั้งที่มีเหตุการณ์สำคัญในสังคม

ผลรายงานทางระบบ Mental Health Check In ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 พบว่า ประชาชนมีระดับความเครียดขยับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 2.17 ตั้งแต่ต้นปี 2566 และในระยะสองสัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง ระดับความเครียดขยับเพิ่มถึงร้อยละ 3.07 และมีระดับสูงขึ้นเท่าตัว คือสูงกว่าร้อยละ 6.0 ในบางวัน และในช่วงเวลาการรอคอยผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการนี้ มีแนวโน้มที่ความเครียดของประชาชนจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในครอบครัวหรือกลุ่มในสังคมที่มีสมาชิกหลายกลุ่มวัย ที่อาจมีผลต่อมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างได้มากขึ้น

แพทย์หญิงอัมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้ คือ สถานการณ์การรายงานผลการเลือกตั้งฯ ที่ประชาชนหลายภาคส่วนยังคงตั้งใจติดตามว่าพรรคหรือบุคคลที่ตนเลือกจะประสบความสำเร็จหรือไม่ หากผู้ที่ติดตามข่าวไม่สามารถดูแลอารมณ์ของตนได้ อาจเกิดการมีปากเสียงหรือความรุนแรงเกิดขึ้น

กรมสุขภาพจิตเสนอข้อแนะนำเพื่อการดูแลสุขภาพจิตและสัมพันธภาพกับคนรอบข้างในช่วงของการรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ด้วยหลัก 4 ไม่ 4 ต้อง โดย 4 ไม่ ประกอบด้วย

1.ไม่กดดัน ตำหนิ ผู้ที่มีความเห็นแตกต่าง

2.ไม่เยาะเย้ย ดูถูก หรือถากถาง ผู้ที่ผิดหวัง

3.ไม่ใส่อารมณ์ ความรู้สึกกับข่าวมากเกินไป

4.ไม่ล้อเลียน ไม่ซ้ำเติมความผิดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์

4 ต้อง ประกอบด้วย

1.ต้องรับฟังอย่างเปิดใจ

2.ต้องหลีกเลี่ยงการรับข่าวสารมากเกินไป

3.ต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจตนเอง

4.ต้องให้กำลังใจ พูดคุย ด้วยสติและถ้อยคำที่สุภาพแสดงความห่วงใย

สำหรับผู้ที่ไม่สมหวังต้องยอมรับความเห็นต่าง ส่วนผู้ที่สมหวังต้องแสดงออกถึงการให้เกียรติ เพื่อให้ครอบครัวหรือญาติมิตรได้ปรับปรุงสายใยความผูกพัน สังคมสามารถดำเนินพัฒนาการทางการเมืองระดับมหภาคต่อไปได้ด้วยความสงบและสันติสุข