ภูมิแพ้ขึ้นตา อย่าปล่อยทิ้งไว้ อาจติดเชื้อที่กระจกตา เสี่ยงสูญเสียการมองเห็นได้
วันนี้ (11 ก.ค. 67) นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัญหามลภาวะทางอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้า กระตุ้นให้เกิดอาการของภูมิแพ้ เมื่อมีอาการแพ้ที่เล็กน้อยหลายคนอาจมองข้ามและคาดไม่ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเสริมว่า โรคภูมิแพ้ขึ้นตาพบได้บ่อยมากขึ้น เนื่องจากภาวะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นในโลกปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่กระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 ละอองเกสรที่กระจายมากับลม ขนสัตว์ พรม เครื่องสำอาง อาหารการกิน อาการแพ้ที่พบจะแตกต่างกัน เมื่อเกิดอาการแพ้ขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าอาการแพ้มีสาเหตุมาจากสิ่งใดเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
แพทย์หญิงอาภา พรเศรษฐ์ จักษุแพทย์ด้านกล้ามเนื้อตา ให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยภูมิแพ้ขึ้นตา (Allergic Conjunctivitis) อาการที่พบเจอเริ่มแรกส่วนใหญ่จะมีอาการคัน ระคายเคือง แพ้แสง ในรายที่อาการรุนแรงจะแสบเหมือนมีทรายอยู่ในตา มีน้ำตาไหล เยื่อบุตาแดงอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้อาจมีอาการตามัวหรือถ้าขยี้ตาเมื่อคัน อาจจะทำให้กระจกตาเป็นรอย จนลามไปเกิดการติดเชื้อที่กระจกตาได้ และหากยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะทำให้สูญเสียการมองเห็นในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอาการจึงไม่ควรมองข้ามหรือคิดเพียงว่าแค่คัน ระคายเคืองเล็กน้อย ทนได้เดี๋ยวก็หาย เราสามารถเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการได้จะดีที่สุด และควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสดวงตา เข้าพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเมื่อมีอาการ
