HEALTH

กรมควบคุมโรคห่วงโรคติดต่อจากยุงลายเพิ่มช่วงสงกรานต์

วันนี้ (11 เม.ย. 66) กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวัง ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.- 6 เม.ย.66 ที่ผ่านมา สถานการณ์โรคติดต่อ
นำโดย ยุงลาย (ไข้เลือดออก, โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา) ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวัง พบผู้ป่วย โรคไข้เลือดออกสะสม 10,439 ราย เสียชีวิต 11 ราย จำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มสูงกว่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี อัตราป่วยสูงสุดพบในภาคใต้ (27.59 ต่อประชากรแสนคน) พบมากในกลุ่มอายุ 15-24 ปี (22.60%) โรคไข้ปวดข้อยุงลาย มีผู้ป่วยสะสม 381 ราย จำนวนผู้ป่วยในระยะนี้สูงกว่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี และ สูงกว่าช่วงนี้ในปีที่ผ่านมาเป็น 4.65 เท่า

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของสัปดาห์นี้ จึงคาดว่า ในระยะต่อไปจนถึงหลังสงกรานต์ อาจพบแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคติดต่อนำโดยยุงลายทั้ง 3 โรค ได้เพิ่มขึ้น และอาจพบในพื้นที่ใหม่ๆ โดยการนำเข้าจากผู้ป่วยที่เดินทาง มาจากพื้นที่ที่เกิดการระบาดอยู่เดิม

กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนป้องกันการถูกยุงกัด ดังนี้

  • นอนกางมุ้งหรืออยู่ในห้องติดมุ้งลวด ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ทาโลชั่นกันยุง ใช้ยาจุดกันยุง พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

โดยการปฏิบัติตามหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ได้แก่
1) เก็บบ้านให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก จัดเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เป็นระเบียบ
2) เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ เช่น เศษภาชนะวัสดุที่ทิ้งกระจาย รอบๆ บ้าน เช่น กะลา กระป๋อง ถุงพลาสติก ควรเก็บทิ้งหรือถมดินไม่ให้น้ำขัง
3) เก็บแหล่งน้ำ ปิดให้มิดชิด เปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ไม่ให้ยุงลายวางไข่ หมั่นเปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน เช่น แจกันดอกไม้สด แจกันหิ้งบูชาพระ ใส่ทรายธรรมดา ในจานรองกระถางต้นไม้ให้ดูดซับน้ำ

ทั้งนี้ ประชาชนควรสังเกตอาการของตนเอง และคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน เกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นที่ผิวหนังตามแขน ขาข้อพับ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และข้อเน้นย้ำว่าไม่ซื้อยากินเอง เนื่องจากยาลดไข้บางประเภทอาจทำให้มีอาการรุนแรงและเลือดออกมากขึ้น รักษายากขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

Related Posts

Send this to a friend