HEALTH

สัตวแพทย์ ย้ำ งดกินเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ต้องปรุงสุกเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ “ไข้หูดับ”

แนะเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิต และแหล่งจำหน่ายที่มีมาตรฐาน เนื้อหมูต้องมีสีชมพู หรือ สีแดงธรรมชาติ แต่ต้องไม่แดงมาก เก็บในภาชนะสะอาดและอุณหภูมิที่เหมาะสม ก่อนบริโภคทุกครั้งต้องปรุงสุก เพื่อทำลายเชื้อโรคได้ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย

ผศ.น.สพ.ดร. อลงกต บุญสูงเนิน ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายชันสูตรโรคสัตว์ กำแพงแสน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “ตามที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา รายงานข้อมูลล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 29 ตุลาคม 2565 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ ซึ่งมีสาเหตุจากการกินหมูดิบ หรือเลือดหมูสุกๆดิบๆ ที่มีเชื้อสเตปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis: S. suis) ปนเปื้อนอยู่ จำนวน 101 คน โดยไม่มีผู้เสียชีวิต และเตือนผู้บริโภคที่ชอบกินหมูดิบ เช่น ลาบเลือดดิบ เนื้อหมูสุกๆดิบๆ หลู้ ส้า ก้อย ซอยจุ๊ หมก โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่มีเทศกาลงานบุญ งานเลี้ยงต่างๆและมีการนำเนื้อหมูมาประกอบอาหาร เลี้ยงผู้ร่วมงาน หากมีเชื้อดังกล่าวปนเปื้อนอยู่ อาจทำให้เป็นโรคไข้หูดับได้ นอกจากนี้เชื้อดังกล่าวยังสามารถเข้าทางบาดแผล รอยถลอก รอยขีดข่วนตามร่างกาย หรือเข้าทางเยื่อบุตาได้ ซึ่งหลังการติดเชื้อ ผู้ป่วยจะสูญเสียการได้ยิน จนถึงขั้นหูหนวกถาวร ข้ออักเสบ เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังติดเชื้อ และอาจรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิต

“แม้รายงานนี้จะยังไม่พบผู้เสียชีวิต แต่จากรายงานก่อนหน้าพบว่าคนไทย ติดเชื้อไข้หูดับในหลายพื้นที่ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการรับประทานเมนูเนื้อหมูสุกๆดิบๆ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมในการบริโภคอาหาร และความชื่นชอบส่วนบุคคล หากติดเชื้อรุนแรงจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกทุกครั้งเท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคปลอดภัยจากทั้งโรคไข้หูดับ พยาธิ และเชื้อก่อโรคต่างๆ ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เนื้อสุกรของฟาร์มในประเทศไทยมีความปลอดภัย”

ผศ.น.สพ.ดร อลงกต แนะนำว่า “ผู้บริโภคควรตระหนักและยึดหลักปฏิบัติเพื่อสุขภาวะที่ดี ลดความเสี่ยงการเจ็บป่วย ด้วย 5 หลักการสำคัญ ได้แก่

1.เลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน สะอาด ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์ หรือกรมอนามัย

2.สังเกตเนื้อหมูมีชมพู หรือสีแดงธรรมชาติ ไม่มีสีแดงเข้มจนเกินไป ไม่ช้ำเลือดหรือมีจุดเลือดกระจายทั่ว ไม่มีกลิ่นเหม็น ผิวเรียบไม่มีตุ่มก้อน และเนื้อไม่แฉะ

  1. เก็บรักษาเนื้อหมูในภาชนะที่สะอาด แยกเป็นสัดส่วนสำหรับพร้อมนำไปปรุงอาหาร หากต้องการเก็บไว้เป็นเวลานานควรเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส หรือเก็บในอุณหภูมิตู้เย็นระหว่าง 5-7 องศาเซลเซียส สำหรับเนื้อสัตว์ที่เตรียมพร้อมปรุง
  2. ล้างมือและวัตถุดิบให้สะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร
  3. ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที เพื่อทำลายเชื้อโรคต่างๆ ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย งดบริโภคเนื้อหมูดิบ เลือด และอวัยวะภายในที่ดิบหรือสุกๆดิบๆ นอกจากจะลดความเสี่ยงจากโรคไข้หูดับแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากการรับประทานอาหาร ปนเปื้อนเชื้อโรคที่เป็นอันตราย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษได้

Related Posts

Send this to a friend