อินโดฯ พบเด็กป่วย “โรคตับอักเสบเฉียบพลัน” โดยไม่ทราบสาเหตุ อย่างน้อย 15 รายแล้ว
นายบูดี กูนาดี ซาดิกิน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้อินโดนีเซียพบเด็กป่วยโรคตับอักเสบเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุแล้ว 15 ราย หลังพบผู้ป่วย 3 รายแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางการอินโดนีเซียขอให้โรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่ง เฝ้าระวังและติดตามอาการป่วยดังกล่าว
รัฐบาลอินโดนีเซีย ยังร่วมกับหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ อังกฤษ และองค์การอนามัยโลก แลกเปลี่ยนข้อมูลและศึกษาวิจัยเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของโรคตับอักเสบเฉียบพลัน
สัปดาห์ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคตับอักเสบเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่างน้อย 228 ราย จาก 20 ประเทศ ทั้งในอังกฤษ เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สเปน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายเชื่อว่า โรคนี้เชื่อมโยงกับเชื้ออะดีโนไวรัสที่มักทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินอาหาร
ด้าน นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า ตับอักเสบเฉียบพลัน คือภาวะที่มีการอักเสบของตับอย่างเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยมักมีอาการไข้อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด สาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลันในเด็ก อาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่นไวรัสตับอักเสบเอ – อี ไข้เลือดออก ยา/สารพิษ ภูมิคุ้มกันทำลายตับ หรือโรคพันธุกรรมทางตับ
การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด ซึ่งตับอักเสบเฉียบพลันเกิดจากการติดเชื้อ Adenovirus การรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาเฉพาะ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะตับวาย ผู้ป่วยมักมีการเปลี่ยนแปลงของระดับการรับรู้ ซึมลง เลือดออกผิดปกติและอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการปลูกถ่ายตับ พร้อมยืนยันว่า ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อนี้ในประเทศไทย
