กรมอนามัย ชี้ ‘น้ำบาดาลโซดา’ อาจปนเปื้อนเชื้อโรค

กรมอนามัย ชี้ ‘น้ำบาดาลโซดา’ อาจปนเปื้อนเชื้อโรค แนะประชาชนควรดื่มน้ำที่มีคุณภาพผ่านเกณฑ์รองรับแล้ว

วันนี้ (10 เม.ย. 66) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน หลีกเลี่ยงการนำน้ำบาดาลโซดาจากแหล่งน้ำดิบมาใช้ทั้งอุปโภค และบริโภคโดยตรง เนื่องจากยังไม่ผ่านการทดสอบคุณภาพน้ำที่เหมาะสมต่อการนำมาบริโภคตามเกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภค ทั้งนี้ แนะนำให้ใช้น้ำที่ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชาชนเจาะบ่อบาดาลเจอน้ำโซดา รสซ่าติดลิ้น ซึ่งน้ำบาดาลดังกล่าว เป็นน้ำดิบที่ยังไม่ผ่านการทดสอบคุณภาพน้ำที่เหมาะสมต่อการนำมาดื่มตามเกณฑ์คุณภาพน้ำบาดาลเพื่อการบริโภคและเกณฑ์เสนอแนะคุณภาพน้ำบริโภคเพื่อการเฝ้าระวังกรมอนามัย พ.ศ. 2563 ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนสารเคมีและเชื้อโรค จึงต้องผ่านการปรับปรุงคุณภาพก่อนนำมาดื่ม

“สำหรับการขุดบ่อบาดาลตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนด เขตน้ำบาดาลและความลึกของน้ำบาดาล พ.ศ. 2554 กำหนดให้ท้องที่ของแต่ละจังหวัดในราชอาณาจักรไทยเป็นเขตน้ำบาดาลและให้น้ำบาดาลที่อยู่ลึกจากผิวดินลงไปเกินกว่า 15 เมตร เป็นน้ำบาดาล ส่วนขนาดบ่อหรือการใช้น้ำบาดาล หากบ่อน้ำบาดาลนั้น ๆ มีความลึก เกินกว่า 15 เมตร จะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย กรมอนามัยจึงประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แนะนำประเด็นทางกฎหมาย การขออนุญาตขุดเจาะบ่อบาดาล หากยังไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตให้ขออนุญาตขุดเจาะบ่อบาดาลด้วย เนื่องจากบ่อบาดาลที่ชาวบ้านขุดลึก 70 เมตร อยู่ห่างจากระบบประปาหมู่บ้านเพียง 200 เมตร อาจเข้าข่ายความผิดเจาะบ่อบาดาลโดยไม่ได้ขออนุญาต” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

นายแพทย์อรรถพล กล่าวเสริมว่า น้ำที่เหมาะบริโภค ควรมีคุณภาพตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลก ซึ่งกรมอนามัยใช้เป็นเกณฑ์มาโดยตลอด ตามประกาศกรมอนามัย เรื่อง เกณฑ์เสนอแนะคุณภาพน้ำบริโภคเพื่อการเฝ้าระวัง กรมอนามัย พ.ศ. 2563 ได้กำหนดเกณฑ์เพื่อชี้วัดคุณภาพน้ำบริโภคที่เหมาะสมสำหรับการบริโภค ประกอบไปด้วยเกณฑ์ทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ รวม 21 รายการ