HEALTH

จักษุแพทย์ ชี้ค่าสายตาคนยุคดิจิทัลเปลี่ยนทุกปี เพราะจ้องหน้าจอไม่พัก

พร้อมแนะตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกปี ป้องกันความผิดปกติ เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น

นพ.ศุภฤกษ์ ทิพาพงศ์ จักษุแพทย์ สาขาจอประสาทตาและวุ้นตา อาจารย์พิเศษสาขาจอประสาทตาและน้ำวุ้นตา ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และประธานกรรมการบริหารและจักษุแพทย์ ประจำศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์ ล่าสุดออกคำแนะนำตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกปี เนื่องจากค่าสายตาคนยุคดิจิทัลเปลี่ยนทุกปี เพราะจ้องหน้าจอไม่พัก ทั้งนี้เพื่อค้นหาความผิดปกติของดวงตา และเพิ่มประสิทธิภาพของการมองเห็น

นพ.ศุภฤกษ์ กล่าวว่า “พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนยุคนี้ ใช้สายตาในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งการทำงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ การพักผ่อนด้วยการดูโทรทัศน์เล่นเกมส์ และการเพ่งจอมือถือเพื่อสื่อสารตลอดเวลา ทำให้ปัจจุบันพบผู้ที่มีปัญหาสายตา เข้ามาขอรับคำปรึกษาจำนวนมาก การดูแลสุขภาพตา จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย ควรตรวจสุขภาพตาและวัดค่าสายตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาความผิดปกติของดวงตา และประสิทธิภาพของการมองเห็น หากเรามีวิธีดูแลสุขภาพดวงตาที่ยั่งยืน ก็จะช่วยให้มีการมองเห็นที่ชัดเจนยืนยาว ชะลออายุดวงตาไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร”

“หากถามว่าควรตรวจสุขภาพตาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ คงต้องบอกควรทำเป็นประจำ ตั้งแต่วัยเด็ก เพราะเด็กในปัจจุบันมีกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา ในระยะมองใกล้เยอะมาก เช่น การเรียนออนไลน์ ดูยูทูป เล่นเกมส์ ฯลฯ จึงควรตรวจวัดค่าสายตาเป็นประจำ เพราะหากมีความบกพร่องทางสายตาตั้งแต่เด็ก ก็อาจส่งผลถึงการเรียนในห้องเรียน การสังเกต การมองเห็น ทำให้ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ลดลง ส่วนในวัยผู้ใหญ่ก็ควรมีการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพราะปัญหาสายตาที่พบบ่อย ในวัยเด็ก-35 ปี คือ สายตาสั้นและตาแห้งจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ในช่วงวัย 40 ปี จะเริ่มมีสายตายาวและโรคต้อหิน ผู้ที่อายุมากกว่า 50-60 ปีมักจะพบโรคจอประสาทตาเสื่อม หรือในบางรายที่มีโรคประจำตัวเบาหวาน ก็ควรระวังโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถตรวจเช็ค สุขภาพตาเบื้องต้นได้ที่ร้านแว่นตาชั้นนำที่มีการดูแล ให้คำปรึกษาเรื่องค่าสายตา และการถนอมดวงตา โดยจักษุแพทย์และนักทัศนมาตร”

“นวัตกรรมการตรวจสุขภาพดวงตา และการวัดค่าสายตาถูกปรับเปลี่ยน มาสู่รูปแบบ Digital Technologyในชื่อ Vision R800 ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบ มาสำหรับค่าสายตา ‘เฉพาะบุคคล’ (Individual Eye Care) ทำให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติเสมือนจริง ซึ่งปัจจุบันร้านแว่นตาชั้นนำในประเทศไทย มีเครื่องมือตรวจวัดค่าสายตา ที่สามารถอ่านค่าสุขภาพตาเบื้องต้นได้”

โดยก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพตาสามารถทำ ‘Check List โรคของดวงตาที่พึงระวัง’ เพื่อเป็นจุดสังเกตในการขอรับคำปรึกษา ดังนี้ 1.ปัญหาเรื่องเยื่อบุตา ต้อลม ต้อเนื้อ
2.ปัญหากระจกตาผิดปกติ กระจกตาย้วย แผลเป็นของกระจกตา
3.ช่องหน้าลูกตาอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ เพื่อคัดกรองภาวะต้อหินมุมปิด
4.ปัญหาเลนส์ตา ภาวะต้อกระจก
5.ปัญหาจอประสาทตา ภาวะจอประสาทตาเสื่อม เบาหวานขึ้นจอประสาทตา

“หากสุขภาพตาเราปกติดีแล้ว ลำดับต่อไปคือการวัดค่าสายตา ซึ่งเราวัดค่าสายตาปัจจุบันเพื่อเทียบกับค่าสายตาเดิม ว่ามีแนวโน้มค่าสายตาที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ และรับคำปรึกษาเรื่องเลนส์ที่ใส่แล้วมองเห็นชัด สบายตา ตรงตามค่าสายตาแท้จริงเรามากที่สุด การวัดค่าสายตาเพื่อตัดแว่น “แบบเฉพาะบุคคล” ด้วยเครื่องวัดสายตา Vision R 800 นี้ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในเมืองไทยได้ประมาณ 2-3 ปี สามารถวัดค่าสายตาได้ความละเอียด มากถึง 0.01 ไดออปเตอร์หรือ 25 เท่า ผนวกกับเลนส์สายตาก็มีเทคโนโลยี ที่รองรับความละเอียดระดับนี้แล้ว อาทิ เลนส์สายตา Eyecurasee (อายคิวราซี) ของ Nikon ที่สามารถผลิตเลนส์สายตา เฉพาะบุคคลที่ความละเอียด 0.01 ไดออปเตอร์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ในประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ แคนาดา และจีน เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง”

ดังนั้นการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างนี้ทุกปี จะทำให้เราช่วยป้องกันโรคทางตา ที่จะเกิดขึ้นกับเราได้ หากเราพบสาเหตุโรคทางตา เราจะได้แก้ไขหรือปรึกษากับจักษุแพทย์ได้ทันเวลา อีกทั้งปัจจุบันการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สามารถขอรับคำปรึกษาเบื้องต้นจากผู้ชำนาญการ ณ ร้านแว่นตาที่มีเครื่องตรวจสุขภาพตาที่ทันสมัย เพื่อหาวิธีหรือแนวทางการแก้ไขภาวะสายตาเสียแต่เนิ่นๆ จะทำให้เราสามารถถนอมการใช้สายตาได้อีกขั้น เพื่อการดูแลดวงตาคู่สำคัญของเราให้ดีที่สุด”

Related Posts

Send this to a friend