กรมการแพทย์ เตือน อย่าให้เด็กทดลองดื่มเหล้า เสี่ยงสูญเสียพัฒนาการทางสมอง
วันนี้ (9 ม.ค. 66) นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และ นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ล่าสุดประกาศย้ำเตือน พ่อแม่ และผู้ปกครอง อย่าหลงเชื่อความเชื่อแบบผิดๆ โดยให้บุตรหลานดื่มเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อในอนาคตจะได้คอแข็ง ซึ่งการกระทำคึกคะนองดังกล่าวเป็นอันตรายต่อเด็ก มากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า เพราะส่งผลระยะยาวต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก
นายแพทย์มานัส กล่าวว่า “กรมการแพทย์ ขอย้ำเตือน พ่อ แม่ ผู้ปกครองอีกครั้ง อย่าเพียงแค่นึกสนุก หรือมีความเชื่อผิดๆ ให้บุตรหลานดื่มเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อในอนาคตจะได้คอแข็งสุราหรือเหล้า รวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เครื่องดื่มที่เหมาะสมให้เด็กดื่ม หากเด็กดื่มสุราหรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย จะส่งผลต่อร่างกายของเด็กมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า ทั้งทำลายสมองและระบบต่างๆในร่างกาย ส่งผลระยะยาวต่อพัฒนาการทางสมอง จะทำให้เด็กสูญเสียความสามารถในการจดจำ ความคิดสร้างสรรค์ถูกทำลาย”
“เพราะสุรา หรือเหล้า คือ เครื่องดื่มที่มีเอทิลแอลกอฮอล์ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อดื่มสุราเข้าสู่ร่างกาย จะถูกดูดซึมและกระจายไปทุกส่วนของร่างกายภายในเวลา 5 นาที ในผู้ใหญ่เมื่อมีการดื่มในช่วงแรก จะทำให้ร่างกายมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อมากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการสับสน มากกว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดอาการง่วง สับสน ซึม มึนงง และถ้ามากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป อาจทำให้สลบซึ่งการก่อพิษ ของแอลกอฮอล์ในเด็กกับผู้ใหญ่ไม่ต่างกัน เพียงแต่ในปริมาณการดื่มที่เท่ากัน ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดของเด็กจะมากกว่า เนื่องจากน้ำหนักตัวเด็กที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ และโครงสร้างที่ป้องกันสารพิษในระบบไหลเวียนเลือดไปสู่สมองของเด็กพัฒนาการยังไม่เต็มที่ ทำให้สารพิษเข้าสู่สมองได้มากกว่าผู้ใหญ่ รวมไปถึงอวัยวะต่างๆ ตับและไต ที่พัฒนายังไม่เต็มที่ทำให้การขับสารพิษ ออกจากร่างกายได้ช้ากว่าผู้ใหญ่”
นายแพทย์สรายุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การดื่มสุราทำให้การหลั่งสารโดปามีน (dopamine) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสารนี้จะมีผลต่อการกดและทำลายสมองส่วนคิด ทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องพัฒนาการของสมอง อาจส่งผลให้เด็ก คิดวิเคราะห์ไม่ได้ รวมทั้งส่งผลต่ออวัยวะสำคัญในร่างกาย ตับ ไต จะเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ซึ่งตับเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตกลูโคส ไปเลี้ยงสมอง หากมีผลกระทบต่อตับ กลไกเหล่านี้ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่”
“ทั้งนี้การที่ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัว ดื่มสุราให้เด็กเห็นเป็นประจำ แนวโน้มที่เด็กจะโตขึ้นมาเป็นนักดื่มมีมากกว่าปกติถึง 4 เท่า ยิ่งพ่อแม่ผู้ปกครองให้ลูกลองดื่ม ยิ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ลูกกลายเป็นนักดื่มเร็วยิ่งขึ้น จึงขอย้ำเตือน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่คิดจะให้เด็กทดลองดื่มสุรา เพียงแค่นึกสนุกหรือมีความเชื่อผิดๆ เช่น ให้บุตรหลานดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในอนาคตจะได้คอแข็ง พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผล ต่อสุขภาพร่างกายของบุตรหลานอย่างมาก อย่าเพียงแค่นึกสนุกแต่ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย ซึ่งอันตรายมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า เด็กควรจะต้องได้รับอาหารและสารอาหารที่ถูกต้อง ครบถ้วน เหมาะสมตามวัย ซึ่งจะทำให้เด็กมีภาวะโภชนาการที่ดี ส่งผลต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการ และการพัฒนาสติปัญญา
และหากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา หรือยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี












