เตือน หน้าร้อนอาหารบูดเสียง่าย ซื้ออาหารรถเร่บรรจุถุงพลาสติก เลี่ยงที่มีกะทิ
วันนี้ (3 เม.ย. 66) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ออกคำเตือนช่วงหน้าร้อน เนื่องจากอาหารบูดเสียง่าย และเชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ซื้อจากรถเร่หรือรถพุ่มพวง จำหน่ายอาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลส่วนมาก จะแช่น้ำแข็งในตู้แช่ซึ่งอุณหภูมิไม่เพียงพอ ทำให้บูดเสียง่าย ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ส่วนอาหารปรุงสำเร็จที่บรรจุใส่ถุงพลาสติก โดยเฉพาะอาหารมีกะทิ หากพบฟองก๊าซเกิดขึ้นในถุงไม่ควรซื้อ พร้อมแนะประชาชนควรเลือกอาหารปรุงสุก ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ลดเสี่ยงโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคท้องร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด โรคไทฟอยด์ และอหิวาตกโรค
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า “ในช่วงหน้าร้อนประเทศไทย จะมีอุณหภูมิสูงประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส บางพื้นที่อาจสูงถึง 43 องศาเซลเซียล ซึ่งหน้าร้อนจะเหมาะกับการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และขยายตัวเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว หากปนเปื้อนอยู่ในอาหารก็จะทำให้บูดเสียง่าย ซึ่งโรคที่ต้องเฝ้าระวัง คือ โรคติดต่อจากอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคท้องร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด โรคไทฟอยด์และอหิวาตกโรค เพราะจากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอุจจาระร่วง ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยจำนวน 410,699 ราย และเสียชีวิตจำนวน 2 ราย พบจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มอายุ 0-4 ปี มากที่สุดร้อยละ 16.42 รองลงมาคือ มากกว่า 65 ปี ร้อยละ 15.25 และ 25-34 ปี ร้อยละ 13.56 ภาคกลาง คือ ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด”
“ประชาชนควรเลือกซื้ออาหาร จากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ เช่น ตลาดสดน่าซื้อ ตลาดนัดน่าซื้อ หรือร้านอาหาร แผงลอย ที่ได้มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) โดยเลือกเนื้อสัตว์ อาหารทะเลที่สด ไม่มีสีและกลิ่นผิดปกติ เก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส สำหรับผู้ที่ซื้อจากรถเร่จำหน่ายอาหาร หรือรถพุ่มพวง ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากอาหารที่จำหน่ายในรถเร่นั้น มีการจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ และอาหารทะเลส่วนมาก จะแช่น้ำแข็งในตู้แช่ซึ่งอุณหภูมิไม่เพียงพอ ทำให้เน่าเสียง่าย”
“ส่วนอาหารปรุงสำเร็จที่บรรจุใส่ถุงพลาสติกไว้ หากสังเกตว่ามีฟองก๊าซเกิดขึ้นในถุง ไม่ควรซื้อ หลีกเลี่ยงอาหาร หรือขนมที่มีส่วนผสมของกะทิ เนื่องจากบูดเสียได้ง่าย ทั้งนี้แนะนำให้เลือกกินอาหารปรุงสุก ใหม่ โดยยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆดิบๆ เช่น ลาบ น้ำตก ก้อย หรือ หลู้ ส้า รวมถึงเมนูที่นิยมกินอย่างแพร่หลาย เช่น กุ้งเต้นพล่าปลา กุ้งแช่น้ำปลา ยำหอยแครง อาหารทะเลปิ้งย่าง เป็นต้น หากจะกินอาหารที่เก็บไว้ในตู้เย็น อาหารที่ทำไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง หรือเก็บไว้ค้างคืน ต้องนำมาอุ่นให้เดือด ด้วยความร้อนอย่างทั่วถึงก่อน นอกจากนี้หากกินอาหารร่วมกันควรใช้ช้อนกลาง โดยก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องส้วม ต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อลดสื่อนำโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ”