HEALTH

แนะ ช่วงปิดเทอมผู้ปกครอง ชวนลูกหลานทำกิจกรรมในครอบครัว

ส่งเสริมการเล่นกีฬา โดยเลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัย ป้องกันปัญหาสุขภาพ จากการจ้องหน้าจอมือถือ

วันนี้ (2 ต.ค. 66) นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ช่วงที่เด็กปิดเทอม และเป็นช่วงเวลาที่เด็กได้ผ่อนคลาย และมีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรหากิจกรรมที่สามารถ ทำร่วมกันในครอบครัว เพื่อสร้างความสัมพันธ์ เด็กๆ จะได้ไม่หมกมุ่นกับหน้าจอมือถือมากเกินไป เพราะจะทำให้สุขภาพเสียตามมา เช่น สายตา โรคอ้วน หรืออาจได้รับผลกระทบด้านอารมณ์ที่ฉุนเฉียว และการทำกิจกรรมในครอบครัว จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก เพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรม ตามธรรมชาติที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างร่างกายแข็งแรง และทำให้เด็กมีทักษะ การดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ พร้อมรับวันเปิดเทอม สิ่งสำคัญพ่อแม่ก็จะได้สบายใจ

นายแพทย์วีรวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม วงจรชีวิตของเด็กนักเรียน กว่าร้อยละ 80-90 จะนอนดึกตื่นสาย เล่นอินเทอร์เน็ต เล่นเกม จนถึงเที่ยงคืน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย เช่น ระบบสายตา โรคอ้วน เครียด พัฒนาการถดถอย หรือบางรายอาจเกิดภาวะอารมณ์ที่รุนแรง นอกจากนี้หลายครอบครัว นิยมส่งลูกไปเรียนภาควิชา แทนการทำกิจกรรมนอกหลักสูตร ที่ช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม ซึ่งในช่วงปิดเทอมเด็กๆ จะมีเวลาว่างอยู่กับผู้ปกครอง มากกว่าช่วงเปิดเทอม ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่เด็กๆ และผู้ปกครองจะได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างสัมพันธภาพกับเด็กให้เด็กรู้สึกอบอุ่น มีพัฒนาการ และสร้างความมั่นใจ การเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมให้แก่เด็กๆ ทำให้มีทักษะในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ปกครองจึงต้องเลือกกิจกรรม ที่เหมาะสมกับเด็ก โดยแบ่งตามช่วงวัยดังนี้

1.กิจกรรมสำหรับเด็กวัยอนุบาล อายุ 3-6 ปี เป็นวัยที่เน้นกิจกรรมสนุกสนาน และน่าตื่นเต้น เช่น การลอดถ้ำจำลอง,วาดภาพระบายสี,ฟังและเล่านิทาน,ปิกนิก,เล่นกีฬา,ร้องเพลง,กิจกรรมลูกเสือ การเดินสำรวจธรรมชาติ,ว่ายน้ำ,ไปเที่ยวสวนสัตว์ เป็นต้น

2.กิจกรรมสำหรับเด็กประถมศึกษา อายุ 6-12 ปี และกิจกรรมสำหรับวัยรุ่น อายุ 13-17 ปี เป็นช่วงวัยที่เริ่มเข้าสังคม ชอบทำกิจกรรมที่สนุกสนาน และท้าทายความสามารถ โดยกิจกรรมของ 2 ช่วงวัยนี้คล้ายคลึงกัน เช่น เล่นวอลเลย์บอล,กีฬาฟันดาบ,เล่นกีฬาทางน้ำ,ปีนผาจำลอง,ไต่เชือก,ปั่นจักรยาน,เดินป่าชมธรรมชาติ,ตั้งค่ายพักแรม เป็นต้น

ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะชีวิต ฝึกการควบคุมตนเอง สร้างความมั่นใจในตนเอง ฝึกทักษะทางกีฬา ฝึกความเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็น สำหรับการใช้ชีวิต การปิดเทอมในครั้งนี้เด็กๆ จะได้หาความสามารถพิเศษของตนเองเจอ สุขภาพก็ไม่เสีย ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ว้าวุ่นหัวใจ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat