กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย รณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2562 และเทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ “รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” สร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกัน ลดการรังเกียจกีดกัน และเลือกปฏิบัติ มีเป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา”
ทำเนียบรัฐบาล – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเนื่องในวันเอดส์โลก และเป็นโอกาสเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ในการป้องกัน เอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia and the Pacific) ภายใต้แนวคิด “Communities make the difference รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” ให้ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการยุติปัญหาเอดส์ สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา”
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ภายใน 10 ปี โดยเน้นให้ชุมชนทั้งภาครัฐและ ภาคประชาสังคม มีส่วนร่วมสร้างความตระหนักและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ภาคประชาสังคมร่วมจัดบริการ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงได้รับการตรวจเอชไอวี ส่งเสริมการป้องกันและดูแลรักษา เชื่อมต่อกับสถานบริการภาครัฐ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ ได้รับการดูแลแบบองค์รวม ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน สู่เป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติ อันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงจากเดิมร้อยละ 90 นำไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทยภายในปี 2573