EAT DIARY: ให้เวลาดื่มด่ำความสุข และพูดคุยกับคนรู้ใจที่ Soufflé and me
- บรรยากาศ
บ้านสีขาวที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของขนมอบ - การตกแต่ง
เน้นการใช้สีขาวสะอาดตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความใส่ใจ - จุดถ่ายรูป
สวยน่าถ่ายรูปทุกจุดตั้งแต่ สวน ทางเข้า ไปจนถึงภายในอาคาร (ปัจจุบันเปิดให้นั่งเพียงห้องละ 2 โต๊ะเท่านั้นเพื่อรักษาระยะห่าง) - เมนูต้องลอง
ซูเฟลทั้งชนิดคาว (Savory) และแบบหวาน - เวลาเปิด-ปิด
ทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
ในยุคสมัยที่ทุกอย่างเร่งรีบ และเวลาหมุนเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ การได้นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศอุ่นๆ กลิ่นหอมๆ และทำให้เวลาหมุนช้าลง และให้เวลาในการสนทนากับคนข้างตัว ครอบครัว หรือให้เวลากับตัวเองบ้างก็ดีไม่น้อย
Soufflé and me ร้านอาหารของเชฟไก่ (ธนัญญา ไข่แก้ว) เชฟกระทะเหล็กของหวาน เป็นบิสโทรบรรยากาศอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความใส่ใจในรายละเอียด เพียงแค่เปิดประตูเข้ามา กลิ่นหอมก็โชยมาปะทะจมูกแบบที่สาวกเบเกอรี่ (อย่างเรา) เผลอสูดหายใจลึกๆ ให้กลิ่นเข้าไปเต็มปอด มองไปทางไหนก็รู้สึกสบายตาด้วยสีขาวสะอาด กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ และพื้นหินอ่อนสวยๆ และของตกแต่งที่ดูเข้ากันไปเสียหมด น่ามองทุกจุดทุกมุม
ผนังสีขาวด้านล่างยังเป็นลายริ้วเหมือนถ้วย Soufflé อันเป็นซิกเนเจอร์เมนู และชื่อของร้านนี้ด้วย จานชาม และของประดับสไตล์วินเทจก็ยิ่งเสริมให้สาวๆ รู้สึกหวานขึ้น และมีมุมถ่ายรูปเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และความพิเศษของพื้นที่นั่งชั้นล่าง คือครัวเปิดที่ทำให้เราสามารถนั่งมองเชฟทำงานไปด้วยได้
นี่แค่ภายในส่วนแรกเท่านั้น ยังมีบริเวณสวยๆ ด้านนอก และพื้นที่ห้องชั้น 2 ที่ตกแต่งอย่างเรียบหรู พื้นไม้ กับหน้าต่างสไตล์วินเทจเก๋ๆ อีกด้วย
สำหรับอาหารที่นี่ไม่ได้มีแต่ซูเฟล และเบเกอรี่ แต่ยังมีสลัด พาสต้า ริซอตโต้ สปาเก็ตตี้ ซุป และเสต็ก อีกด้วย โดยจุดเด่นของอาหารที่นี่อยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียม และปรุงตามสไตล์ตะวันตก เรียกได้ว่าถูกใจทั้งสายเบเกอรี่ และสายอาหารหนักกันเลยทีเดียว
เราเริ่มมื้อนี้กันด้วยพาสต้าผัดน้ำมันมะกอก กระเทียม และเบค่อน ที่หอมกลิ่นน้ำมันนมะกอกเบค่อนคุณภาพดี ปรุงมาได้อย่างลงตัวทั้งตัวเส้นที่เด้งสู้ฟัน ไม่เละ หรือแข็งจนเกินไป ความมันที่กำลังเหมาะ และรสชาติที่ลงตัว
และลิงกวินีอัลเฟรโด้ปลาหมึกไข่เค็มที่ใช้ปลาหมึกชิ้นโตสดใหม่ ผัดกับไข่เค็มที่ให้ความเค็มมันลงตัว
ตามด้วยเมนูของหวานไฮไลต์ของที่นี่อย่างซูเฟลที่มีให้เลือกมากกว่า 20 เมนู ทั้งคาว และหวาน โดยเราดับความคิดถึงญี่ปุ่นด้วยการเลือก ซูเฟลครีมชีสโอซาก้ากับไอศกรีมน้ำผึ้ง … อร่อยสมคำร่ำลือด้วยเนื้อซูเฟลที่นุ่มฟู หอมละมุน โรยหน้าด้วยไอซิ่งทานคู่กับครีมชีสโอซาก้า และไอศกรีมโฮมเมดรสน้ำผึ้งที่รสหอมหวานพอดีๆ ไม่หวานแหลมแบบน้ำตาลทราย ตกแต่งลงจานอย่างเรียบง่ายแต่ได้ใจ
เมื่อมาเสิร์ฟ แนะนำว่าอย่าได้แตะตัวถ้วยซูเฟลนะคะ เพราะอบสดออกมาถ้วยจะค่อนข้างร้อน และหากจะทานให้อร่อยเราแนะนำว่า ให้เจาะตรงกลางซูเฟล และราดซอส พร้อมตักไอศกรีมหยอดลงไปเลย แล้วคนๆ นิดหน่อย เมื่อซอสสัมผัสกับความอุ่นด้านในซูเฟลจะช่วยขับรสชาติของซอสออกมาเพิ่มขึ้น และสำหรับคนที่ชอบไอศกรีมละลายนิดๆ ก็อาจจะรอนิดนึงก็ได้เนื้อสัมผัสที่ยิ่งนุ่มนวลขึ้นไปอีก
นอกจากซูเฟล เราขอแนะนำทาร์ตผลไม้ที่จัดหนักผลไม้คัดเกรด และเนื้อทาร์ตที่เนื้อสัมผัสพอดิบพอดี ไม่ร่วน หรือแข็งเกินไป และครีมที่รสดีสุดๆ เสริมรสชาติของทาร์ดและผลไม้ได้อย่างลงตัว เราเลือกทาร์ตสตรอเบอร์รี ลูกโตมาและก็ไม่ผิดหวัง ผลไม้คัดเกรด กับทาร์ตที่มีเนื้อสัมผัสลงตัวไม่แข็ง หรือร่วนจนเกินไป จัดว่าเด็ด!
ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งชา กาแฟ ม็อกเทล ค็อกเทล ไปจนถึงไวน์ โดยราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 200 – 1,000++ บาท ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
แอบกระซิบว่าซูเฟล เป็นอาหารที่ต้องทำสด และใช้เวลาทำประมาณ 20 นาที ตามคอนเซปท์ของร้านที่เชฟไก่บอกว่า อยากให้ได้ดื่มด่ำ และใช้เวลาระหว่างการรอการปรุงอาหารไปกับการพูดคุย และใช้เวลากับคนใกล้ตัว จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการรับประทานอย่างรวดเร็วนัก
สำหรับการเดินทาง ร้าน Soufflé and me ตั้งอยู่ที่ซอยวัดโพธ์แมน หรือสาธุประดิษฐ์ 19 แยก 12 หากนำรถมาสามารถจอดได้ที่วัดโพธิ์แมน และโทรแจ้งให้ทางร้านนำรถมารับส่งได้
ที่ตั้ง 417 ซอย วัดโพธิ์แมน แขวง ช่องนนทรี เขต ยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120 พิกัด PG2Q+M8 Bangkok
รายละเอียดการติดต่อ โทร. 090-978-0442 หรือ Facebook: Soufflé and me
