ECONOMY

เอกชน ลุ้น กกพ.เคาะลดค่าไฟภาคอุตสาหกรรม วันนี้

วันนี้ (28 ธ.ค. 65) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีกำหนดประชุมทบทวนอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวด ม.ค. – เม.ย. 66 ประเภทอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจ อุตสาหกรรม บริการ ตามนโยบายรัฐบาล

เบื้องต้นคาดว่า จะลดลงได้อีกประมาณ 40 สตางค์ จากเดิมที่ค่า Ft ต้องปรับขึ้นไปอยู่ที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย หรือค่าไฟเฉลี่ยรวมเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย โดยค่าไฟที่ลดลง จะมาจาก 2 ส่วนสำคัญ คือ 20 สตางค์แรกมาจากการปรับลดราคาก๊าซธรรมชาติของ บมจ.ปตท. รวมทั้งค่าน้ำมันดีเซล ที่ใช้ผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เหลืออีกประมาณ 20 สตางค์ ต้องรอตัวเลขการจ่ายหนี้สะสมของกฟผ.จากเดิมต้องจ่ายให้ กฟผ. 33 สตางค์/หน่วย ว่า กฟผ.จะรับคืนลดลงได้แค่ไหน

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการค่าไฟฟ้า ว่า รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่กระทรวงพลังงานชี้แจง เช่น ให้เอกชนบางส่วนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตให้มีการใช้ลดลงเพื่อลดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) แล้วหันไปใช้น้ำมันเตาและดีเซลแทนเป็นการชั่วคราว ซึ่งกรณีที่ ต้องใช้ระยะเวลา ไม่สามารถทำได้ทันที ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นำเสนอแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เอกชนยังคาดหวังว่า ค่าไฟฟ้าควรจะลดต่ำมากกว่า 40 สตางค์/หน่วย แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ก็คงจะต้องยอมรับ เพราะต้องการให้เกิดการทำงานเชิงรุกมากกว่า ส่วนจะพอใจหรือไม่ ก็คงไม่พอใจ เพราะไม่ใช่แนวทางการแก้ไขที่ตรงจุด

“แนวทางแก้ไขตาม 5 ข้อเสนอ ของ กกร. เช่น ค่าความพร้อมจ่าย (AP) ของโรงไฟฟ้าเอกชนควรจะปรับตัวลงบ้างหรือไม่ ซึ่งรัฐมักจะไม่พูดถึงประเด็นนี้เลย ทั้ง ๆ ที่ภาครัฐมีเครื่องมือ ทั้งนโยบาย กฎหมายและการกำกับดูแล แต่เลือกสั่งแต่ กฟผ. เพราะอยู่ภายใต้กำกับ จนไม่สามารถแบกรับภาระไหวแล้ว ส่วนภาระหนี้ กฟผ. กระทรวงการคลังควรเข้ามาช่วยเหลือ เช่น งดส่งเงินเข้าคลัง ออกบอนด์เพื่อระดมเงินทุนจากประชาชนแล้วเพื่อมาช่วยเสริมสภาพคล่อง ที่ผ่านมาเอกชนยืนยันว่าได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงพลังงาน 4-5 ฉบับแต่ไม่เคยเปิดช่องให้หารือ” นายอิศเรศ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend