ECONOMY

สภาธุรกิจเอเปค เตรียมเสนอแนวทาง “ฟื้นเศรษฐกิจ – ส่งต่อโลกน่าอยู่”

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจและการค้ากำลังเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างภูมิรัฐศาสตร์ ผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ไปจนถึงปัญหาการขาดแคลนซัพพลายเชนในระดับโลก

สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เกิด 3 ปัญหาเร่งด่วนที่ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคเต้องช่วยกันเร่งแก้ไข คือ ภาวะเงินเฟ้อ ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน และการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ\

ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ปี 2565 ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.2565 ซึ่งเวทีนี้ได้เปิดให้ภาคเอกชนมีบทบาทร่วมด้วย ABAC ได้ข้อสรุป 69 ข้อ ที่รวบรวมเป็นข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ผ่าน 5 คณะทำงาน รายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไปเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเตรียมเสนอที่ประชุมผู้นำเอเปคใน 5 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย

  1. ด้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค มุ่งเน้นในการอำนวยความสะดวกการเปิดการค้าเสรี การบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยสนับสนุนระบบการค้าตามกฎสากลและเร่งให้เกิดเขตการค้าเสรีของเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) รวมทั้งการรื้อฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเปคอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นโอกาสของไทยในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ภายในเขตเศรษฐกิจเอเปคที่มีประชากรรวมกันกว่า 2,900 ล้านคน และมีขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) เป็นสัดส่วนกว่า 57% ของโลก โดยเฉพาะการส่งออกอาหารของไทย
  2. ด้านดิจิทัล (Digital) มุ่งเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสำหรับประเทศสมาชิก โดยไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านดิจิทัลที่ช่วยขับเคลื่อนและผลักดันให้ทุกเขตเศรษฐกิจก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งเรียกร้องให้เอเปคสร้างแพลตฟอร์มในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับภูมิภาค ที่จะประสานการดำเนินการและการลงทุนด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ร่วมกัน
  3. ด้าน MSMEs และการมีส่วนร่วม สนับสนุนด้านการเงิน ความรู้ และการปรับตัวให้กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโควิด-19 และส่งเสริมการมีบทบาททางเศรษฐกิจของผู้หญิง เยาวชนและกลุ่มที่ยังไม่ได้รับโอกาส การยอมรับและเปิดโอกาสให้เติบโต อาทิ กลุ่มสตาร์ทอัพ
  4. ด้านความยั่งยืน ซึ่งกลายเป็นเทรนด์สำคัญของโลกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากสัญญาณของภัยธรรมชาติที่รุนแรงในปีนี้ อาทิอุทกภัยในปากีสถาน พายุเฮอริเคนที่มากกว่าปกติ ไฟป่าครั้งใหญ่ ทำให้ทุกเขตเศรษฐกิจต่างมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเดียวกันในการสร้างสังคม Net Zero ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ พร้อมทั้งยังส่งเสริมให้มีความมั่นคงทางพลังงานและอาหารในอนาคต และ 5. ด้านเศรษฐกิจและการเงิน มุ่งสร้างมาตรการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและยั่งยืน ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อแก่เข้าสู่สังคมการเงินดิจิทัล

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการและข้อริเริ่มต่างๆ จะทำให้ไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น มีการพัฒนาระบบเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ลดและยกเลิกปัญหาอุปสรรคทางการค้า รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยของไทย ให้เข้าสู่ระบบการค้าโลก เพื่อนำไปสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค นอกจากนี้ ผลลัพธ์ของการประชุมเอเปค จะช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย หลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการค้าดิจิทัล

Related Posts

Send this to a friend