ECONOMY

กมธ.การเงินการคลังฯ ชี้ กนง. ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.5% เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจหลายมิติ

กมธ.การเงินการคลังฯ ชี้ กนง. ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.5% เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจหลายมิติ ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง-ลดภาระดอกเบี้ยแก่ประชาชน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

วันนี้ (14 ส.ค. 68) นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นต่อมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.5% ว่าเป็นการดำเนินการที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องและผลักดันมาหลายครั้ง แม้จะล่าช้าจนเศรษฐกิจชะลอตัวไปบ้าง แต่ยังดีกว่าไม่ปรับลดใด ๆ เลย

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจในหลายมิติ ทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมลดลง ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนตัดสินใจกู้เงินเพื่อนำไปลงทุนหรือจับจ่ายมากขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ลดภาระดอกเบี้ยของผู้ที่มีหนี้สินเดิมแบบดอกเบี้ยลอยตัว จูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น

อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงยังเอื้อต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว มีแนวโน้มทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง สินค้าส่งออกมีความสามารถแข่งขันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและตลาดการเงิน

สำหรับกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง ได้แก่

1.เกษตรกร: ลดภาระดอกเบี้ยสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. สามารถกู้ทุนซื้อปัจจัยการผลิตในราคาถูกลง เพิ่มโอกาสลงทุนเพื่อขยายการผลิต

2.ประชาชนทั่วไป: ผู้กู้สินเชื่อบ้านหรือรถแบบดอกเบี้ยลอยตัวจ่ายค่างวดลดลง เพิ่มกำลังซื้อและความสามารถในการบริโภค

3.ภาคธุรกิจ: ลดต้นทุนทางการเงิน กระตุ้นให้โครงการลงทุนที่ชะลอตัวกลับมาเดินหน้า เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ

4.ตลาดการเงิน: นักลงทุนมีแรงจูงใจย้ายเงินจากการฝากดอกเบี้ยต่ำกว่าไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ทำให้ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น

Related Posts

Send this to a friend