ครม.ไฟเขียวกรอบงบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน ขาดดุล 8.6 แสนล้าน
ครม.ไฟเขียวกรอบงบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน ขาดดุล 8.6 แสนล้าน เก็บรายได้เพิ่ม 3 หมื่นล้าน ‘จุลพันธ์’ หวัง ธปท. ทำเงินเฟ้อเข้ากรอบและใกล้เคียงระดับ 2% และดูอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับเหมาะสม
วันนี้ (7 ม.ค. 68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 8.6 แสนล้านบาท
นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรอบงบประมาณปี 2569 ที่ ครม.เห็นชอบ เป็นไปตามที่ที่ประชุม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นชอบ ทั้งนี้ กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2569 วงเงินรวม 3.78 ล้านล้านบาท มีการการขาดดุลงบประมาณลดลง 5 พันล้านบาท กรอบงบประมาณรวมเพิ่มขึ้น 2.7 หมื่นล้านบาท และจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
นายจุลพันธุ์ กล่าวว่า ขั้นตอนกระบวนการที่จะตั้งงบประมาณต้องดูวินัยการคลัง ต้องดูสัดส่วนตามที่กฎหมาย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังกำหนด กรอบการขาดดุลต่าง ๆ เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยขั้นตอนต่อไปต้องมีการดูในเรื่องของงบประมาณที่เสนอเข้ามาและจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ หน่วยงานเศรษฐกิจต่างมองว่าระดับของงบประมาณนี้เหมาะสมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป หลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมายต่อไป กระทรวงการคลังจะต้องดูการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย สำนักงบประมาณต้องดูในเรื่องของการใช้จ่าย และ ธปท. มีหน้าที่ดูเงินเฟ้อให้ได้ตามกรอบเป้าหมาย 1-3 % และให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง รมว.คลัง กับผู้ว่า ธปท. ที่จะทำให้เงินเฟ้อเข้าใกล้ 2% ตามที่ตกลงไว้ อีกทั้ง ธปท.จะต้องดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับเหมาะสมที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันระหว่างคู่ค้าและคู่แข่ง