‘ภูมิธรรม’ เผย ตลาดข้าวไทยในอิตาลีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

‘ภูมิธรรม’ เผย ตลาดข้าวไทยในอิตาลีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง หลังเวียดนาม-เมียนมา ถูกตัดสิทธิ์ GSP และอินเดียยังห้ามส่งออกข้าว

วันนี้ (1 เม.ย. 67) เวลา 10.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ว่า ได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์มิลาน อิตาลี ถึงสถานการณ์การผลิตและการนำเข้าข้าวของอิตาลี และโอกาสในการขยายตลาดข้าวไทยในอิตาลีที่ในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

ทูตพาณิชย์รายงานว่า ในปี 2567 เกษตรกรอิตาลีจะกลับมาเพาะปลูกข้าวอีกครั้ง หลังเผชิญกับวิกฤตสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนและภัยแล้ง แต่ผลผลิตก็ยังไม่มากพอ ขณะที่การนำเข้าข้าวมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่มีการนำเข้าจากเวียดนามและเมียนมาลดลง จากการที่สหภาพยุโรป (EU) ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) 2 ประเทศนี้ เพราะไม่เคารพต่อการใช้กฎการคุ้มครองแรงงานขั้นพื้นฐาน

ในปีที่ผ่านมา ตัวเลขจาก Global Trade Atlas พบว่า อิตาลีนำเข้าข้าวจากทั่วโลกมูลค่า 303.29 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 14.21% โดยไทยถือเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญของอิตาลี อันดับ 3 มีมูลค่า 23.62 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.01% รองจาก ปากีสถาน 113.63 ล้านเหรียญสหรัฐ และอินเดีย 40.76 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนำเข้าข้าวหอมมะลิและข้าวขาวมากที่สุด มูลค่า 20.22 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 38.64%

“แนวโน้มการส่งออกข้าวไทยไปอิตาลีในปี 2567 น่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้น เพราะ EU ได้ระงับสิทธิ์ GSP จากเวียดนามและเมียนมา ทำให้ปี 2566 ทั้ง 2 ประเทศนี้ส่งออกไปอิตาลีลดลง 76.74% และ 76.54% ตามลำดับ และไทยยังได้อานิสงส์จากการงดส่งออกข้าวขาวของอินเดีย ทำให้ปี 2566 ข้าวไทยขยายตัวในตลาดอิตาลีอย่างมาก และคาดว่ายังคงขยายตัวต่อเนื่องในปี 2567 ผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมความพร้อมในการส่งออก แต่ในปี 2568 หากทั้งสองประเทศได้รับสิทธิ์ GSP อีกครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย ซึ่งต้องจับตาต่อไป” นายภูมิธรรม กล่าว

สำหรับตลาดข้าวไทยในอิตาลี ข้าวที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ ข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคโดยทั่วไป โดยปี 2566 มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในอิตาลี 5,141,341 คน ในจำนวนนี้ เป็นชาวเอเชีย 1,181,236 คน และชาวแอฟริกา 1,151,433 คน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่บริโภคข้าว รวมถึงร้านอาหารไทยและร้านอาหารเอเชียที่เปิดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ข้าวไทยขยายตัวได้ดีในอิตาลี