ลูกสาวร้อง สตช. แม่ป่วยจิตเภทหายลึกลับกว่า 6 ปี หลังเรียกรถรับจ้างมารับ หวังยังพบตัว
มูลนิธิกระจกเงา นำ น.ส.วรรณกา อาสนา เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.ไตรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศูนย์คนหายตำรวจ) เพื่อให้ช่วยติดตามมารดา คือ นางแพรพรรณ อาสนา อายุ 54 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคจิตเภท และต้องทานยาจิตเวชอย่างต่อเนื่อง ได้หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างเดินทางไปเยี่ยมญาติตามลำพังที่ จ.หนองคาย ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2557 โดยวันที่นางแพรพรรณหายตัวไป นัดหมายกับบุตรสาวให้เดินทางไปรับกลับบ้านที่กรุงเทพฯ แต่นางแพรพรรณหายตัวไปเสียก่อน
น.ส.วรรณกา เล่าว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ตนเอง และบิดาซึ่งทำงานอยู่กรุงเทพฯ นัดหมายกับมารดาว่า หลังเลิกงานจะขับรถไป จ.หนองคายเพื่อรับกลับบ้านที่กรุงเทพฯ โดยตลอดวันไม่สามารถติดต่อมารดาทางโทรศัพท์ได้ จึงเกิดความกังวลใจ และเมื่อเดินทางมาถึงบ้านญาติที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคายในเช้าวันที่ 9 ส.ค. 2557 จึงได้ทราบข่าวจากญาติว่ามารดาหายตัวไปอย่างปริศนา
จากการติดตามข้อมูลต่างๆ ทำให้ทราบว่า ช่วงเช้าของวันที่ 8 ส.ค. 2557 มารดาได้เรียกรถสามล้อรับจ้าง คาดว่าให้ไปส่งที่บ้านญาติใน อ.เมือง จ.หนองคาย แต่คนขับรถรับจ้างกลับบอกว่าไปส่งมารดาที่สถานีขนส่ง อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เข้าใจว่ามารดาจะไปที่นั่นเพราะเหตุใด ประกอบกับมารดาพกเงินสดติดตัวไปประมาณสองหมื่นบาท เกรงว่าอาจเกิดอันตรายระหว่างเดินทาง และภายหลังการหายตัวไป ยังมีผู้รับสายจากเบอร์มารดาโดยอ้างว่าเก็บโทรศัพท์ได้ อีกด้วย
นางสาววรรณกา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ได้พยายามติดตามมารดามาโดยตลอด และเฝ้าติดตามข่าวการพบศพนิรนามในพื้นที่ ว่าเป็นมารดาของตนเองหรือไม่ เคยแม้กระทั่งขอเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับศพที่ลอยมาในแม่น้ำโขง ซึ่งผลดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ทั้งนี้ จากข่าวพริตตี้ออยที่มีการสืบสวนติดตามจนพบว่าเป็นศพนิรนามนานกว่า 6 ปี จึงกังวลว่า มารดาอาจเกิดเหตุร้ายในลักษณะนั้น แต่ยังหาศพไม่เจอหรือไม่ นอกจากนี้ยังหวังว่ามารดาอาจยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยอาการป่วยจิตเภท อาจเดินเร่ร่อนหรือไปพักอาศัยที่ใดที่หนึ่ง และกลายเป็นบุคคลเร่ร่อนนิรนามก็เป็นได้
จึงได้มายื่นหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากให้มีการประสาน สั่งการ และลงพื้นที่สอบสวนปมสงสัยในวันเกิดเหตุ ว่ามารดาของตนเองหายไปได้อย่างไร และจะพยายามตามหาแม่จนกว่าจะพบ
ด้าน พ.ต.อ.วาที อัศวุตมางกุร รองโฆษก สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ของนางสาววรรณกาไว้แล้ว โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลศพนิรนามในฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ขณะที่นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า กรณีคนหายหลายรายที่ผ่านมา มีโอกาสเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ เพราะข้อมูลคนหายและข้อมูลคนตายไม่ได้ถูกนำมาตรวจเปรียบเทียบกัน จึงพบว่า มีคนหายหลายรายที่ญาติตามหา แต่เข้าไม่ถึงข้อมูลศพนิรนาม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ คดีพริตตี้ออย ที่เสียชีวิตกลายเป็นศพนิรนามนานกว่า 6 ปี จึงจะรู้ว่าเป็นใคร ทั้งๆที่ครอบครัวและเพื่อนไปแจ้งความคนหายและตามหามาตลอด แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีการเชื่อมโยงกันและประชาชนเข้าไม่ถึงฐานข้อมูล เพราะข้อมูลศพนิรนามกระจัดกระจายอยู่ตามแผนกนิติเวชโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ โดยไม่มีการรวมฐานข้อมูลเดียวกัน ปัญหาศพนิรนามจึงเป็นวาระที่ต้องสังคายนากันครั้งใหญ่
สำหรับเบาะแสล่าสุด ในช่วงเช้าที่ผ่านมานายเอกลักษณ์ แจ้งว่ามีพลเมืองดีแจ้งไปยังมูลนิธิว่าพบบุคคลที่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับนางแพรพรรณ กำลังพูดเสียงดังอยู่คนเดียว บริเวณหน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แขวงทางหลวง จ.ฉะเชิงเทรา วันนี้เจ้าหน้าตำรวจพร้อมด้วยมูลนิธิกระจกเงาจะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
